สร้างแบรนด์ แบบดิจิทัล Digital Branding คือ อะไร พร้อมวิธีทำที่ถูกต้อง [อัพเดทล่าสุด]

สร้างแบรนด์ แบบดิจิทัล Digital Branding คือ อะไร พร้อมวิธีทำที่ถูกต้อง [อัพเดทล่าสุด]

สร้างแบรนด์

สร้างแบรนด์ ที่ไม่มีตัวตนในโลกดิจิทัล อาจจะฟังเข้าใจยากหน่อย แต่ธุรกิจในปัจจุบันยังไงก็ต้องการเครื่องมือสร้างแบรนด์ดิจิทัลที่หลากหลายเพื่อประสานการแสดงตัวตนทั้งในโลกแห่งความเป็นจริงคู่ขนานไปกับแบรนด์แบบดิจิทัล จากจุดนี้ไป เราจะพามาเริ่มกลยุทธ์สร้างแบรนด์ของคุณเอง ด้วยคำแนะนำที่จำเป็นต่างๆสำหรับการสร้างแบรนด์ดิจิทัล สำรวจทุกสิ่ง ไล่ตั้งแต่โซเชียลมีเดียไปจนถึงการทำ SEO การใช้อินฟลูเอ็นเซอร์ Influencer Marketing ไปจนกระทั้ง อีเมล อย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าแคมเปญสร้างแบรนด์ดิจิทัลของคุณ ติ๊กเครื่องหมายถูกทุกจนครบทุกช่อง

การ “สร้างแบรนด์” เป็นกระบวนการที่สร้างสรรค์และมีกลยุทธ์ในการสื่อสารกับผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าว่าคุณเป็นใคร คุณสนใจอะไร ทำไมพวกเขาจึงควรร่วมงานกับคุณ และ บริหารจัดการกับสิ่งที่พวกเขาคาดหวังจากคุณ หลังจากเริ่มต้นธุรกิจ หรือ สร้างผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกหรือบริการอย่างแรกของคุณแล้ว การสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์เป็นสิ่งสำคัญอันดับหนึ่งที่คุณต้องลงมือ

การสร้างแบรนด์จำต้องกลั่นกรองทุกอย่างเกี่ยวกับสิ่งที่คุณทำ และ วิธีที่คุณทำให้กลายเป็นสาระสำคัญที่น่าจดจำ ซึ่งผู้คนจะจดจำและเชื่อมโยงกับบริษัทของคุณจะต้องลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ ลองนึกถึง ซุ้มโค้งสีทองของ McDonald หรือ วงแหวนหลากสีของสัญลักษณ์โอลิมปิก แม้แต่สัญลักษณ์หรือรูปภาพที่เรียบง่ายก็สามารถถ่ายทอดความสัมพันธ์ที่มีความหมายซึ่งสะท้อนตัวตนของคุณออกไปยังโลกกว้างได้

เราขอนำเสนอเทคนิคสร้างแบรนด์ด้วย “B” สามตัว ได้แก่ 1. แบรนด์ Brand, 2. การสร้างแบรนด์ Branding/Brand Buliding และ 3. เอกลักษณ์ของแบรนด์ Brand Identity แม้ว่ามันจะมีความเกี่ยวข้องกันแต่ก็ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว

แบรนด์ของคุณ คือ สิ่งที่โลกภายนอกรับรู้ ถึงบริษัทและตัวตนของคุณ

สร้างแบรนด์ เป็น กระบวนการในการออกแบบและเป็นการสร้างแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์และน่าจดจำ
Brand Identity หรือ เอกลักษณ์ของแบรนด์ คือ ชุดขององค์ประกอบสร้างสรรค์ที่สะท้อนให้เห็นในกระบวนการสร้างแบรนด์ของคุณ เช่น เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย และ โลโก้ ซึ่งสื่อสารข้อความ คุณค่า และวัตถุประสงค์ของคุณ “B” ทั้งสามจะต้องทำงานร่วมกัน จะไม่มีวันที่ แบรนด์ที่แท้จริงจะเกิดได้ หากไม่มีเอกลักษณ์ของแบรนด์ และ คุณไม่สามารถมีแบรนด์ได้จนกว่าคุณจะเริ่มสร้างมัน

สร้างแบรนด์แบบดิจิทัล
สร้างแบรนด์แบบดิจิทัล

มาลอง เริ่มกำหนดแบรนด์ของคุณด้วยการถามตัวเองด้วยคำถามเหล่านี้

 คุณเป็นใคร ในบริษัท?
 อะไรทำให้คุณ แตกต่าง จากแบรนด์อื่นๆ?
 พันธกิจของแบรนด์ของคุณ คือ อะไร? จุดประสงค์ คือ อะไร?
 คุณค่าของคุณ คือ อะไร?
 ใคร คือ ลูกค้าในอุดมคติของคุณ?

การรู้จักและกำหนดตัวตนของคุณคือขั้นตอนแรกในการสร้างแบรนด์ที่มีความหมาย

การสร้างแบรนด์ดิจิทัล ( Digital Branding ) คือ อะไร?

การสร้างแบรนด์ดิจิทัล คือ วิธีที่คุณออกแบบและสร้างแบรนด์ผ่านสื่อออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ แอพฯ โซเชียลมีเดีย วิดีโอ และ อื่นๆ การสร้างแบรนด์ดิจิทัล ประกอบด้วย การผสมผสานระหว่างการตลาดดิจิทัลและการสร้างแบรนด์ทางอินเทอร์เน็ต เพื่อพัฒนาแบรนด์ของคุณช่องทางออนไลน์ให้ครอบคลุม

เหตุใดการแสดงแบรนด์ดิจิทัลจึงมีความสำคัญนั้น ก็ลองดูโทรศัพท์มือถือที่คุณใช้อยู่… เราทุกคนใช้อุปกรณ์ชิ้นนี้ของเราอย่างต่อเนื่อง พวกเราส่วนใหญ่มีปฏิสัมพันธ์กับโลกใบใหญ่ผ่านหน้าจอเข้าสู่อินเทอร์เน็ต ดังนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ แบรนด์ จะต้องเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและเปลี่ยนผู้ใช้ขาจรให้เป็นผู้ภักดีในระยะยาว การสร้างแบรนด์ดิจิทัลช่วยให้บริษัทใดๆก็ตาม สามารถแสดงสถานะของตนให้เป็นที่รู้จักได้ ทุกที่ ทุกเวลา แม้แต่ในมือถือของพวกเขา 

 

การสร้างแบรนด์ดิจิทัล vs การตลาดดิจิทัล

Digital Branding กับ Digital Marketing ต่างกันอย่างไร? ในขณะที่การสร้างแบรนด์ดิจิทัลมุ่งเน้นไปที่การให้คุณค่าและสร้างความภักดีและการรับรู้ถึงแบรนด์ การตลาดดิจิทัลนั้น เกี่ยวกับการหาลูกค้าใหม่และสร้างยอดขาย

โฆษณาจะปรากฏต่อผู้ใช้ทางออนไลน์อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าพวกเขาจะไม่สังเกตเห็นก็ตาม นี่คือการตลาดดิจิทัลที่ดีที่สุด โฆษณาอาจมาในรูปของคนดังใน Instagram ที่โปรโมท เครื่องสำอาง ที่พวกเขาชื่นชอบ หรือ โพสต์คูปองส่วนลดในช่อง Youtube ของพวกเขา

การสร้างแบรนด์ดิจิทัลไม่ได้ต่างจากการโฆษณาแบบดั้งเดิม แบรนด์ดิจิทัลต้องการที่จะมีส่วนร่วมกับคุณ การสร้างให้แบรนด์มีตัวตนในโลกออนไลน์ อารมณ์เชิงบวกมีความสำคัญมากกว่าการทำให้ผู้คนซื้อเพียงครั้งเดียว เรียนรู้ทั้งหมดเกี่ยวกับ การตลาดออนไลน์ ประเภทต่างๆ ในเว็บไซต์นี้ครับ

 

ประโยชน์ของการสร้างแบรนด์ดิจิทัล

สถานะดิจิทัลที่แข็งแกร่ง ทำให้ลูกค้ารู้สึกมีส่วนร่วมกับบริษัทหรือผลิตภัณฑ์ของคุณเป็นการส่วนตัว การสร้างแบรนด์ที่ออกแบบมาอย่างดี ช่วยส่งเสริมสายสัมพันธ์กับผู้ใช้และช่วยให้เราสามารถพูดคุยกับผู้บริโภคได้โดยตรงผ่านการโต้ตอบในชีวิตประจำวันบนแพลตฟอร์มที่พวกเขาใช้อยู่แล้ว

การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย
การแสดงตนทางออนไลน์ของบริษัท เป็นโหมดการแสดงรอบปฐมทัศน์สำหรับผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าส่วนใหญ่ในการเรียนรู้และโต้ตอบกับแบรนด์ การสร้างแบรนด์ดิจิทัลช่วยให้คุณมุ่งเน้นไปที่ผู้ชมของคุณ โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายเฉพาะของลูกค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ที่พวกเขาใช้บ่อยที่สุด เช่น TikTok, facebook, Youtube และ Instagram

เชื่อมต่อกับลูกค้า
การสร้างแบรนด์ดิจิทัลที่ประสบความสำเร็จต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกเหมือนกำลังคุยอยู่กับคุณตัวเป็นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพวกเขามีส่วนร่วมในแพลตฟอร์มเดียวกับที่ใช้โต้ตอบกับเพื่อนและสมาชิกในครอบครัว จะต้องเป็นส่วนตัวและมีความหมาย นี่คือ วิธีที่คุณเปลี่ยนลูกค้าขาจรให้กลายเป็นผู้ติดตามแบรนด์ตลอดชีวิต

หัวใจหลัก คือ การสร้างแบรนด์ดิจิทัลช่วยอำนวยความสะดวกในการสื่อสารระหว่างบริษัทกับลูกค้า สิ่งนี้สามารถทำได้ง่ายๆ เช่น ช่วยให้ลูกค้าค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทของคุณได้ง่ายๆ หรือ รับบริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยมอย่างรวดเร็ว ท้ายที่สุดแล้ว แบรนด์ที่ไม่สามารถถูกค้นพบได้ทางออนไลน์นั้น ไม่มีอยู่จริงในใจของผู้บริโภคยุคใหม่

นอกจากนี้ การสร้างแบรนด์ดิจิทัลยังมีประโยชน์อีกประการ คือ ศักยภาพในการ “บอกต่อปากต่อปาก” หรือ การเข้าถึงผู้ชมจำนวนมากในช่วงเวลาสั้นๆโดยเสียค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อยหรือแทบไม่มีเลย ทีนี้เราลองมาดูองค์ประกอบต่างๆใน การสร้างแบรนด์ธุรกิจดิจิทัล กันดีกว่า

 

9 องค์ประกอบพื้นฐานในการสร้างแบรนด์ดิจิทัลที่ประสบความสำเร็จ

1. โลโก้
โลโก้ของคุณต้องเป็นอย่างแรกๆและเป็นภาพเดียวที่ลูกค้าของคุณนึกถึงเมื่อต้องการเชื่อมโยงกับแบรนด์ของคุณ เมื่อคุณนึกถึง ดิสนีย์ คุณจะเห็น “หูมิกกี้เมาส์” เมื่อคุณนึกถึง แอปเปิ้ล คุณจะนึกถึงอันที่แหว่งไปนิดนึงอันนั้นแน่นอน

โลโก้ของคุณควรตรงกับบุคลิกและค่านิยมของธุรกิจ อุตสาหกรรม และ กลุ่มเป้าหมายของคุณ คุณไม่ต้องการความฉูดฉาด แต่การออกแบบโลโก้ของคุณควรน่าจดจำพอที่จะสร้างความประทับใจ แต่ก็ไม่ซับซ้อนจนผู้ชมจำไม่ได้ เพราะทุกวันนี้ภาพออนไลน์มีมากมายมหาศาล

เริ่มต้นด้วยการกำหนดว่า แบรนด์ของคุณ มีความทันสมัยและเรียบง่ายหรือไม่? ย้อนยุคหรือวินเทจ? ตลกและแปลก? ลองนึกภาพโลโก้ที่มีแต่ข้อความ หรือ รูปภาพบางอย่าง หรือ ไอคอน สัญลักษณ์ที่เป็นตัวแทนของแบรนด์คุณได้

ลองสอดส่อง โลโก้ อื่นๆในอุตสาหกรรมของคุณ และ ดูว่าคู่แข่งของคุณกำลังทำอะไรอยู่ อย่าลืมสังเกตทฤษฎีสีด้วย สีโลโก้ที่เหมาะสมสามารถทำให้โดดเด่น และ กำหนดอารมณ์ได้ โทนสีควรเป็นมาตรฐานในทุกวัสดุที่ใช้สำหรับสร้างแบรนด์

โลโก้ของคุณควรดูดีบนวัสดุทุกยี่ห้อทุกขนาด รวมถึง หัวจดหมาย นามบัตร และ ป้ายโฆษณา แต่โปรดจำไว้ว่า แพลตฟอร์มดิจิทัลต้องการขนาดและภาพที่เฉพาะเจาะจง คุณควรออกแบบโลโก้ที่ดูดีบนรูปโปรไฟล์ รูปหน้าปก ส่วนหัวของอีเมล ปุ่มแอพ ฯลฯ

โลโก้เป็นจุดแรกบนถนนสู่ แบรนด์ดิจิทัลที่ยอดเยี่ยม แต่ก็อย่ากังวลกับมันให้มากเกินไป 

2. เว็บไซต์
หากโลโก้ของคุณเป็นสัญลักษณ์ทางธุรกิจ เว็บไซต์ของคุณก็คือที่ตั้งร้านค้าดิจิทัลของคุณ เมื่อลูกค้าต้องการทราบสถานที่ตั้งจริง เวลาเปิดทำการ รายการสินค้า หรือ ข้อมูลติดต่อ พวกเขาจะไม่ค้นหาจากสมุดหน้าเหลือง พวกเขาจะค้นหาข้อมูลอย่างรวดเร็วและง่ายดายโดย Google หาเว็บไซต์ของคุณ

เว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพนั้นเรียบง่ายและใช้งานง่าย ปรับปรุงการออกแบบของคุณและรักษาความสอดคล้องของแบรนด์ด้วยโทนสีที่จำกัด ซึ่งตรงกับหรือเสริมโลโก้ของคุณ ทำให้ชื่อแบรนด์และรายละเอียดสำคัญของคุณโดดเด่นด้วยฟอนต์ตัวหนาและอ่านง่าย ทำให้หน้าของคุณกระชับและตรงประเด็น และไม่รบกวนผู้ใช้ของคุณด้วย 

เว็บไซต์ของคุณต้องมีโครงสร้างลิงก์ที่ “รวบรวมข้อมูลได้” ซึ่งหมายความว่า ผู้คนและเครื่องมือค้นหาสามารถนำทางไปย้งข้อมูลทั้งหมดที่แสดงบนเว็บไซต์ของคุณได้อย่างง่ายดาย ในทำนองเดียวกัน เนื้อหานี้ต้องจัดทำดัชนีได้ง่ายโดยเครื่องมือค้นหา (เดี๋ยวเราจะอธิบายเพิ่มเติมหลังจากนี้) เพื่อให้เนื้อหาไม่สูญหายไปกับอินเทอร์เน็ต

สุดท้าย ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณทำงานได้อย่างถูกต้อง ตรวจสอบทุกลิงค์ ทุกปุ่ม ทุกภาพ… ข้อผิดพลาดจะทำให้คุณดูไม่เป็นมืออาชีพ จำไว้ เว็บไซต์มีความสำคัญต่อความสำเร็จของแบรนด์

3. ข้อความของแบรนด์ (ที่ต้องการสื่อสารออกไป)
ข้อความของแบรนด์ คือ สิ่งที่บริษัทพูด และ พูดอย่างไร ข้อความของคุณควรสะท้อนถึงสิ่งที่คุณทำและเชื่อ และ กระชับ

ข้อความของแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จควรตอบคำถามต่อไปนี้:

คุณกำลังทำอะไร?
คุณหมายความว่าอย่างไร?
ทำไมมันถึงสำคัญ?

ถ้าฉันทำร้านกาแฟ ฉันอยากจะสื่อถึงแบรนด์ของฉันว่า ฉันสำคัญ เพราะฉันเก่งที่สุดในการทำชงกาแฟ เป็นตัวแทนของกาแฟรสชาติแท้ เข้มข้น ไม่มีที่ไหนเหมือนและรสดีไปกว่านี้อีกแล้ว!

น้ำเสียงของคุณควรตรงกับบริษัทและบริการที่มีให้ คุณขายเครื่องสำอางสำหรับสาววัยรุ่นหรือไม่? ลองให้มันขี้เล่นและทันสมัย ขายเครื่องมือแพทย์อยู่หรือเปล่า? ลองลดโทนเสียงลงและทำให้ดูเป็นผู้เชี่ยวชาญมากขึ้น พยายามทำมันให้ดีที่สุดอยู่เสมอ อย่าลืม! มุ่งเน้นแง่บวก และ แนวทางแก้ไขมากกว่าสร้างปัญหา

ข้อความของคุณควรจะเหมือนกันทุกที่ ข้อความที่ปรากฏในการค้นหาโดย Google ของบริษัทของคุณต้องตรงกับข้อความแสดงแบรนด์ของเว็บไซต์ของคุณ ในทำนองเดียวกัน ตัวแทนฝ่ายบริการลูกค้า หรือ แอดมิน ควรพูดคุยในแบบที่พวกเขาทำบน facebook และ Instagram

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อความแบรนด์ของคุณเข้าถึงผู้ชมออนไลน์ของคุณ หากแบรนด์ของคุณอยู่บนอินเทอร์เน็ต ก็ควรจะเหมือน ชาวเน็ต เพราะชาวเน็ตมีรูปแบบการสื่อสารของตัวเอง (เช่น มีม GIF คำแสลง) ที่บริษัทต่างๆ ควรใช้บนโซเชียลมีเดียตามความเหมาะสม

ข้อความควรเป็นเฉพาะแพลตฟอร์มด้วย เช่น Twitter ตอบสนองต่อเหตุการณ์ปัจจุบันแบบเรียลไทม์ ดังนั้นเพจ Twitter ของแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จจึงตอบสนองต่อเหตุการณ์เหล่านี้เช่นกัน สิ่งนี้ถึงจะสมบูรณ์แบบของการมีส่วนร่วมทางออนไลน์ด้วยความตั้งใจและมีความหมาย

สร้างแบรนด์ ดิจิทัล
สร้างแบรนด์ ดิจิทัล

4. การเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องมือค้นหา
SEO (Search Engine Optimization) ทำให้แบรนด์และผลิตภัณฑ์ของคุณถูกค้นพบบนเครื่องมือค้นหาได้ง่าย ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีหลักที่ลูกค้าค้นหาบริการของคุณ เริ่มต้นด้วยการออกแบบเว็บไซต์ของคุณโดยคำนึงถึง SEO จุดเริ่มต้นที่ดี คือ หลักเกณฑ์ของ Google ซึ่งจะอธิบายวิธีที่ Google จัดทำดัชนีและจัดอันดับไซต์ของคุณ นี่คือ เคล็ดลับของเรา

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสามารถเข้าถึงหน้าเว็บแต่ละหน้าได้ผ่านลิงก์จากหน้าอื่นๆ ที่คุณพบ
จำกัดจำนวนลิงก์ในหน้าได้สูงสุด 1,000 ลิงก์
ออกแบบหน้าเว็บสำหรับผู้ใช้เป็นหลัก ไม่ใช่เพื่อสนองตอบเครื่องมือค้นหา
พิจารณาสิ่งที่ทำให้เว็บไซต์ของคุณมีประโยชน์และน่าสนใจ
ทำให้เว็บไซต์ของคุณแตกต่างจากที่อื่นด้วยการให้ข้อมูลที่มีมูลค่าเพิ่ม
ตรวจสอบไซต์ของคุณอย่างต่อเนื่อง หาลิงก์เสียและป้องกันการแฮ็ก

ใช้เครื่องมือค้นหาคำหลัก เช่น Google Keyword Planner, Ubersuggest เพื่อค้นหาคำค้นหาบ่อยที่คุณสามารถใช้ในคำโฆษณาของคุณ และ เมตาแท็ก (ตัวอย่างข้อความที่อธิบายข้อมูลในหน้าเว็บ) ต้องเหมาะสำหรับเครื่องมือค้นหา

คุณควรมี ลิงค์จำนวนมากพอสมควร มายังเนื้อหาของคุณ (ลิ้งค์ทั้งในหน้าภายในและภายนอกเว็บไซต์ของคุณเอง) เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏชัดเจนยิ่งขึ้นและอันดับสูงขึ้นในผลการค้นหา เครื่องมือค้นหา เช่น Google คำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด 

5. โซเชียลมีเดีย
facebook, LINE, TikTok, Twitter, Instagram เกือบทุกคนรวมถึงคุณยาย มีโซเชียลมีเดียบางรูปแบบ ถ้าคุณมีลูกค้าที่ไหน คุณต้องมีแบรนด์ที่นั่นด้วย

ปรับแต่งโพสต์ทั้งหมดให้เหมาะกับแต่ละแพลตฟอร์ม เนื้อหาวิดีโอใน TikTok มีแนวโน้มที่จะสนุกสนาน มีชีวิตชีวา และมุ่งไปที่ผู้ชมอายุน้อย โพสต์ Instagram เป็นรูปภาพและออกแบบมาเพื่อเพิ่มไลค์และแสดงความคิดเห็น Twitter ทำงานแบบเรียลไทม์และตอบสนองต่อเหตุการณ์และข่าวสารปัจจุบัน Facebook ให้ความสำคัญกับเนื้อหาเบื้องหลังการทำงานของแบรนด์ LINE เป็นการสื่อสารโดยตรงกับทุกคน

คิดอย่าง อินฟลูเอ็นเซอร์ (หรือ ผู้มีอิทธิพล) เมื่อใช้โซเชียลมีเดีย กำหนดเวลาโพสต์และตามเวลานั้น มีส่วนร่วมกับผู้แสดงความคิดเห็น ตอบกลับข้อความโดยตรง อย่าลืมติดตามความคืบหน้า ที่ปรึกษาการตลาดออนไลน์ อาจเป็นคนที่คุณกำลังนึกถึงเมื่อคุณกำลังอยู่ในขั้นตอนนี้ หรือ เครื่องมือตัวช่วย อย่างเช่น Meta Business Suite หรือ Google Analytics จะแสดงให้คุณเห็นว่าคอนเทนต์ไหนหรือเว็บหน้าไหนกระตุ้นการดำเนินการของลูกค้าได้ดี และ คอนเทนต์ไหนหรือเว็บหน้าไหนไม่มีประโยชน์ หากคุณต้องการขายโดยตรงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เครื่องมือ เช่น LINE สามารถนำผู้มีโอกาสเป็นลูกค้ามาคุยกับคุณได้เลย ไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นที่ไหน? ก็ทักไลน์มาคุยกัน @brandingchamp

6. การตลาดผ่านอีเมล
เครื่องมือแฟนซีทั้งหมดที่มีให้สำหรับทำการตลาดแบรนด์ของคุณแบบดิจิทัล คุณจึงอาจจะลืมอีเมลแบบเดิมๆ ไป จดหมายออนไลน์ เป็นวิธีที่ง่ายในการเข้าถึงลูกค้า โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ใช้โซเชียลมีเดียและคู่ค้าแบบ B2B (Business to Business)

เริ่มต้นด้วยการรวบรวมรายชื่ออีเมลของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเมื่อส่งอีเมลออกไปแล้ว มีโอกาสที่เราจะทำให้ “ลูกค้าเป้าหมาย” มีแนวโน้มเปลี่ยนเป็นผู้เยี่ยมชมและสมาชิก คุณสามารถรวมรวมอีเมลเหล่านี้โดยการรับสมัครผ่านโฆษณา หรือ คุณสามารถรวบรวมโดยตรงจากเว็บไซต์ของคุณโดยหน้าสมัครรับข่าวสารในหน้า Landing Page ของคุณ

ก่อนส่งอีเมลจำนวนมาก ให้ระบุให้ชัดเจนเกี่ยวกับสิ่งที่คุณต้องการบรรลุผลสำเร็จ คุณต้องเพิ่มการมีส่วนร่วมหรือไม่? ควรมีประโยคที่หล่อเลี้ยงความสัมพันธ์ที่ดีหรือไม่? ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่หรือเปล่า? เป้าหมายของคุณควรเป็นสิ่งขับเคลื่อนทุกอย่าง ตั้งแต่ชื่ออีเมลไปจนถึงการเลือกรูปภาพ

กำหนดเป้าหมายอีเมลของคุณ เขียนด้วยน้ำเสียงที่มีชีวิตชีวา ชวนให้มีส่วนร่วมและเหมาะกับแบรนด์ของคุณ รวมรูปภาพ วิดีโอ และ เคล็ดลับที่ไม่เพียงแต่จะขายผลิตภัณฑ์ของคุณเท่านั้น แต่ยังดึงดูดลูกค้าให้มีส่วนร่วมกับไลฟ์สไตล์แบรนด์ของคุณด้วย

วางแผนเรื่องการส่งอีเมลจำนวนมากๆของคุณอย่างรอบคอบ เพราะการส่งมากเกินไปมักเป็นตั๋วชั้นหนึ่งสำหรับอีเมลขยะ

7. การโฆษณาออนไลน์ (ยิงแอด)
การใช้พลังของเว็บเพื่อทำการตลาดผลิตภัณฑ์ของคุณ มันไม่ง่ายแบบแค่มีแบนเนอร์บนหน้าเว็บอีกต่อไป ปัจจุบันมีหลายวิธีในการโฆษณาแบบดิจิทัล หรือ ที่เรารู้จักกันในนาม “ยิงแอด” ซึ่งต่อไปนี้เป็นวิธีการทั่วไปบางส่วน

โฆษณาบนเครื่องมือค้นหา: โฆษณาเหล่านี้จะปรากฎอยู่บนสุดของหน้า Google เพื่อให้ลูกค้าสามารถเห็นผลิตภัณฑ์หรือแบรนด์ของคุณก่อน
โฆษณาแบบรูปภาพ: เป็นแบนเนอร์ที่สามารถคลิกได้บนหน้าเว็บบนอินเทอร์เน็ต
การโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย: facebook, TikTok, Twitter, Youtube และ Instagram ล้วนมีวิธีต่างๆ ในการ “สนับสนุน” (Sponsers Ads) เนื้อหาของคุณแบบชำระเงิน ซึ่งหมายความว่าโพสต์ของคุณจะปรากฏในฟีดของผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าโดยอัตโนมัติ
โฆษณาที่ตรงเป้าหมาย (Retargeting/Remarketing Ads): คุณเคยค้นหาบางสิ่ง แล้วจากนั้นเห็นโฆษณานั้นในอีก 10 นาทีต่อมาหรือไม่? ถ้าเคย คุณจะรู้โดยตรงถึงพลังของการโฆษณาแบบกำหนดเป้าหมาย เข้าถึงลูกค้าที่แสดงความสนใจในธุรกิจหรือบริการของคุณผ่านการค้นหาของ Google การเข้าชมเว็บไซต์ และ การกดถูกใจเพจ facebook

สร้างแบรนด์ แบบดิจิทัล
สร้างแบรนด์ แบบดิจิทัล

8. การตลาดเนื้อหา (Content Marketing)
การโฆษณาผลิตภัณฑ์ของคุณในทุกวันนี้ไม่เพียงพอ การมีส่วนร่วมเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการสร้างฐานลูกค้าที่ภักดีและกลับมา นี่คือสิ่งที่ การตลาดเนื้อหา Content marketing มีประโยชน์ เสมือนว่ามันเป็นด้านที่แสดงความมนุษย์ของแบรนด์ของคุณ เมื่อโฆษณาดิจิทัลเน้นการขาย การตลาดเนื้อหาก็จะเน้นที่การมีส่วนร่วม ผ่าน ภาพถ่าย วิดีโอ และ บล็อกโพสต์ (เช่นเดียวกับที่คุณกำลังอ่านอยู่ตอนนี้!)

การตลาดด้วยคอนเทนต์ ที่ประสบความสำเร็จ ควรสร้างความสนใจในแบรนด์ของคุณ และ ทำให้ลูกค้าสนใจผลิตภัณฑ์และข้อความของคุณ มันต้องช่วยสร้างความไว้วางใจระหว่างแบรนด์และผู้ใช้ รวมทั้ง สร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน ในขณะที่การตลาดดิจิทัลแนะนำแบรนด์ของคุณแก่ลูกค้า การตลาดผ่านคอนเทนต์ที่ประสบความสำเร็จจำเป็นต้องทำให้ลูกค้าสนใจโดยเปลี่ยนผู้ใช้ขาจรให้เป็นแฟนตัวยง

9. การตลาดที่มีอิทธิพล (Influencer Marketing)
การตลาดที่มีอิทธิพล Influencer Marketing เป็นรูปแบบหนึ่งของการตลาดที่ใช้ผู้ที่มีผู้ติดตามสื่อสังคมออนไลน์จำนวนมากเพื่อโพสต์หรือนำเสนอเกี่ยวกับแบรนด์ แทนที่จะทำการตลาดโดยตรงกับกลุ่มผู้บริโภค การสื่อสารข้อความแบรนด์ของคุณไปยังคนดังในโซเชียลมีเดียเป็นวิธีที่จะทำให้ข้อความแบรนด์ของคุณกระจายออกไปได้มากนั่นเอง จากการศึกษาหนึ่งพบว่า มากกว่า 80% ของนักการตลาดทั่วโลกใช้แคมเปญอินฟลูเอนเซอร์ 

กระบวนการนี้ง่ายมาก จับคู่กับผู้มีอิทธิพล(อินฟลูเอ็นเซอร์) และ จ่ายค่าธรรมเนียมหรือค่าคอมมิชชั่นเพื่อบอกกับผู้ติดตามของเขาเกี่ยวกับแบรนด์ของคุณ ผู้มีอิทธิพลส่วนใหญ่ที่สร้างฐานผู้ติดตามและความน่าเชื่อถือในช่วงเวลาหนึ่ง สามารถได้รับความน่าเชื่อถือในเครือข่ายของพวกเขา มันนี่มันไม่ใช่วิทยาศาสตร์ระดับยานอวกาศ การตลาดแบบนี้จะทำให้รู้สึกเป็นธรรมชาติมากขึ้นเมื่ออยู่ในมือของคนจริงๆ (แม้ว่าบุคคลนั้นจะได้รับเงินเพื่อพูดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของคุณก็ตาม) อินฟลูเอ็นเซอร์มักจะสร้างเนื้อหาของตนเอง ดังนั้นโพสต์ที่ได้รับการสนับสนุนจึงสอดคล้องกับรูปลักษณ์ที่มีอยู่ในช่องของพวกเขา และสิ่งนี้ทำให้ทีมการตลาดทำงานน้อยลง

แต่ก็มีข้อผิดพลาดมากมายที่ควรหลีกเลี่ยง ผู้มีอิทธิพลที่คุณเลือกจะต้องตรงกับไลฟ์สไตล์ที่แบรนด์ของคุณ คุณคงไม่อยากจ้างอินฟลูเอนเซอร์ด้านฟิตเนสเพื่อขายบราวนี่ให้คุณ เนื่องจากผู้มีอิทธิพลเป็นมนุษย์ พวกเขาอาจแบ่งปันมุมมองที่ไม่สอดคล้องกับหลักปฏิบัติของแบรนด์ ซึ่งอาจทำลายชื่อเสียงของทั้งสองฝ่ายได้ ดังนั้นจงเลือกวิธีการพูดคุยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของคุณอย่างระมัดระวังและชัดเจน

คุณสามารถค้นหาผู้มีอิทธิพลโดยตรงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียหรือใช้แพลตฟอร์มการตลาดที่มีอิทธิพล ( เช่น famast.com ) เพื่อระบุตัวคนดังในโซเชียลมีเดียที่ตรงกับความต้องการของคุณให้มากที่สุด

 

สรุป เรียนรู้เกี่ยวกับการสร้างแบรนด์ดิจิทัล !

การสร้างแบรนด์ดิจิทัลไม่ใช่แค่การขายผลิตภัณฑ์ แต่เป็นการพัฒนาฐานลูกค้าที่หลงใหลและภักดีซึ่งไม่เพียงซื้อสินค้าของคุณเท่านั้น แต่ยังปลูกฝังเชื่อมั่นลงในตัวพวกเขาด้วย สุดท้ายแล้ว จงรักษาเนื้อหาของคุณให้สดใหม่อยู่เสมอ จงแท้จริง ไม่แสแสร้ง จากนี้ไป ความเป็นไปได้ของการสร้างแบรนด์ดิจิทัลสำหรับบริษัทของคุณนั้นมีมากมายและกว้างขวางพอๆ กับจักรวาล คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่อง ” สร้างแบรนด์ แบบดิจิทัล Digital Branding คือ อะไร พร้อมวิธีทำที่ถูกต้อง [อัพเดทล่าสุด] ” นี้ด้วยการคอมเม้นต์ด้านล่างหรือทักไลน์มาคุยกันได้ที่ @brandingchamp

สร้างแบรนด์
สร้างแบรนด์

2 Replies to “สร้างแบรนด์ แบบดิจิทัล Digital Branding คือ อะไร พร้อมวิธีทำที่ถูกต้อง [อัพเดทล่าสุด]”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *