31 โปรแกรม work from home (ทำงานจากที่บ้าน) อัพเดท ระลอกใหม่ ล่าสุด

31 โปรแกรม work from home (ทำงานจากที่บ้าน) อัพเดท ระลอกใหม่ ล่าสุด

work from home

WORK FROM HOME หรือ การทำงานจากที่บ้าน (อีกแล้ว) ไม่ว่าจะเป็นพนักงานในตำแหน่งหรือหน้าที่แบบไหนก็ตาม ถ้าจะแยกกันทำงาน เรื่องของ การสื่อสาร คือ สิ่งที่สำคัญที่สุด การแยกย้าย บ้านใครบ้านมัน จริงๆ ก็จำเป็นจะต้องมีเครื่องไม้เครื่องมือ โปรแกรม หรือ แอพพลิเคชั่น ที่เข้ามาช่วยให้คุณประหยัดเวลาการทำงาน รวมถึง ประหยัดทรัพยากรของตัวพนักงานแต่ละคนเองด้วย เราจึงรวบรวม 31 เครื่องมือ ตัวช่วยให้ทำงานที่บ้าน ราบรื่น และ มีประสิทธิภาพ หวังว่าสิ่งนี้ จะช่วยแก้ปัญหาให้กับหลายๆบริษัทได้

 

work from home คือ การทำงานจากที่บ้าน ในภาษาอังกฤษ อ่านออกเสียง ว่า เวริก – ฟรอม – โฮม หรือ เวิร์กฟอร์มโฮม แปล (บางที่นิยมใช้ตัวย่อว่า WFH) และ มีความหมายถึง การทำงานต่างๆอยู่ที่บ้าน ตัวอย่างเช่น ในช่วงวิกฤตการณ์โรคระบาดติดต่อร้ายแรง อย่าง ไวรัสโคโรน่า หรือ โควิด 19 ในหลายบริษัทจำเป็นต้องให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน (Work from home) เพื่อหลีกเลี่ยงโอกาสในการแพร่เชื้อหรือติดไวรัสในในที่ทำงาน

 

การทำงานจากที่บ้าน หรือ การทำงานทางไกล ( REMOTE WORK ) ฟังดูแล้วอาจจะดูดีและดูไม่ยาก แต่ในความเป็นจริง มีความท้าทายเป็นอย่างมากในการทำงานลักษณะนี้

 

อย่างแรก ที่สำคัญที่สุด คือ เรื่องของการบริหารจัดการ ทั้งตัวงานเอง รวมถึง เวลาในการทำงานด้วย เมื่อไม่มีใครอยู่รอบๆคุณ ไม่มีเพื่อนร่วมงาน ไม่มีหัวหน้า มีแค่คุณคนเดียวเท่านั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องบริหารจัดการทั้ง เวลา และ การทำงาน ให้มีประสิทธิภาพ อย่างน้อยให้เท่ากับที่เคยนั่งทำงานในออฟฟิศ หรือ ให้มากไปกว่านั้นก็จะดีมากๆ

 

อย่างที่ 2 ที่เป็นความท้าทาย คือ เรื่องของการสื่อสาร การทำความเข้าใจซึ่งกันและกันระหว่างพนักงานแต่ละคนด้วยการสื่อสารทางไกลนั้น คุณจำเป็นจะต้องมีเครื่องมือที่พร้อมสำหรับการทำงานแบบ Work From Home ด้วย

 

มีเครื่องมือหลากหลายในการช่วยในเรื่องของการทำงานร่วมกันโดยแต่ละคนทำงานจากที่บ้าน ( WORK FROM HOME ) หรือ ทำงานทางไกล (Remote work) ที่จะสามารถช่วยให้คุณเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงานได้ด้วย รวมถึง จะทำให้การสื่อสารระหว่างกันภายในทีมและผู้ร่วมงานทั้งหมด เกิดขึ้นได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุด รวมไปถึง การบริหาร จัดการ งานแต่ละอย่าง ในแต่ละวัน สามารถประชุมร่วมกันกับเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ เพื่อให้งานดำเนินไปได้จนประสบความสำเร็จ

 

31 เครื่องมือ Work From Home ทำงานจากที่บ้านให้ได้ผลลัพธ์สูงสุด [อัพเดทระลอกใหม่ล่าสุด]

 

1. Google Hangouts

เป็นโปรแกรมหนึ่งที่โด่งดัง เป็นที่รู้จักกันมาก ยิ่งคนไทยน่าจะต้องเคยได้ยิน คำว่า แฮงค์เอ้าท์ กันมาแล้วบ้าง มันเป็นโปรแกรมในการส่งข้อความ รวมถึง การประชุมแบบ video ที่ถูกสร้างโดย google และที่สำคัญ google ออกมายืนยันว่า ข้อมูลทุกอย่างในระบบมีความปลอดภัยสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลสำคัญของแต่ละบริษัท และรวมไปถึงการพูดคุยและบทสนทนาจะถูกดูแลและรักษาความปลอดภัยเป็นอย่างดี ผ่านโปรแกรม hangout นี้ และเครื่องมือ Work From Home ตัวนี้ ถือว่าเป็นโปรแกรมที่สามารถเชื่อมโยงและประสานงานกับโปรแกรมอื่นๆได้อย่างดียิ่ง มีประสิทธิภาพมากที่สุดในบรรดาโปรแกรมช่วยให้การทำงานจากที่บ้านง่ายขึ้น มันยังอนุญาตให้คุณสามารถส่งข้อความแบบเป็นตัวหนังสือหรือข้อความเสียง รวมถึง การส่งวีดีโอและไฟล์ต่างๆผ่านการสนทนาได้อีกด้วยและ ด้วยความเป็นโปรแกรมของ google จึงสามารถส่งแผนที่และสามารถแชร์การถ่ายทอดสดผ่านกลุ่มของพนักงานและทีมงานของคุณได้ ที่น่าดึงดูดใจสำหรับคนทำงาน คือ มันสามารถส่งข้อความที่เป็นแบบ อีโมจิ หรือ สติ๊กเกอร์ ได้ สร้างความสนุกสนานในระหว่างการทำงานจากที่บ้านได้แน่นอน

 

2. Skype

Skype เป็นโปรแกรมในตำนานที่มีมายาวนานพอๆกับประวัติของ microsoft กันเลยทีเดียว โดยทั่วๆไปแล้ว ส่วนใหญ่ทีมงานหรือพนักงานมืออาชีพ มักรู้วิธีการใช้งานของโปรแกรม skype กันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแชทพูดคุย การส่งข้อความ มีการใช้งานโปรแกรมนี้กันอย่างกว้างขวาง ทั้งในธุรกิจขนาดเล็กหรือองค์กรขนาดใหญ่ทั่วโลก ด้วยประสิทธิภาพของการสื่อสารของ application นี้ พนักงานสามารถใช้งานได้ทั้งในตอนที่ทำงานในออฟฟิศ หรือ WORK FROM HOME มันยังมีฟังก์ชั่นการใช้งานอื่นๆเช่น การแชทด้วยวีดีโอ หรือ วีดีโอคอล สไกป์ (skype) นี้เป็นเทคโนโลยีที่ทำงานได้ดีและมีหลากหลายธุรกิจใช้งาน มีการทำงานแบบกลุ่ม ส่งข้อความแบบกลุ่ม สามารถประชุมแบบออนไลน์ได้ และที่สำคัญ skype ยังใช้งานได้ในหลายๆ platform ไม่ว่าจะเป็น windows android iOS mac หรือ Linux ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ

3. Slack

Slack เป็นโปรแกรมที่โดดเด่นในเรื่องของการส่งข้อความแบบฉับพลันทันที (Instant message) ถึงคนที่ทำงานกระจายกันอยู่นอกออฟฟิศ ที่เรียกว่า ทำงานจากที่บ้าน เครื่องมือนี้ช่วยในเรื่องของการสื่อสารกันเป็นทีม สามารถจัดการการทำงานในแต่ละ project ได้ดี ช่วยในเรื่องของการกำหนดว่า ใครเป็นผู้รับผิดชอบของงานในแต่ละงาน แถมยังสามารถบริหารจัดการในเรื่องของการว่าจ้างพนักงานใหม่ผ่านโปรแกรมนี้ได้ด้วย ในเรื่องของการทำงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเขียนโปรแกรม slack ก็โดดเด่นมากในการทํางานลักษณะนี้ เพราะโปรแกรมเมอร์หรือนักเขียนโปรแกรมส่วนใหญ่จะคุ้นเคยและชื่นชอบกับการทำงานของเจ้าโปรแกรมตัวนี้ ลักษณะการใช้งานมีฟังก์ชั่นพื้นฐานทั่วไปคล้ายๆกับโปรแกรมทำงานทางไกลหรือทำงานจากที่บ้านตัวอื่นๆ หลายคนชอบเพราะว่ามันสามารถค้นหาข้อมูลเก่าๆ หรือ ประวัติการสื่อสารต่างๆภายในทีมงานของคุณได้อย่างง่ายดาย

 

4. Workplace by facebook

Workplace คือ การทำงานเป็นทีมบน platform ของ social media ชื่อดังอย่าง facebook นั่นเอง มันสามารถให้คุณบริหารจัดการการเชื่อมโยงระหว่างบุคลากร ทีมงานของคุณผ่านเครื่องมือที่คุ้นเคยอย่าง facebook นั่นเอง สามารถสร้างกลุ่มและอนุญาตให้คนทำงาน เพื่อนร่วมงานแบ่งปัน แชร์ประสบการณ์ หรือ แชร์เครื่องไม้เครื่องมือในการทำงาน เอกสารต่างๆกันได้อย่างง่ายดาย แถมยังมีความสามารถโดดเด่นในเรื่องของความปลอดภัยในการเก็บข้อมูลของบริษัทของคุณด้วย อีกหนึ่งเรื่องที่ทำให้ Workplace (เวิร์คเพลส) เป็นที่พูดถึงนั่น คือ การไลฟ์ (ถ่ายทอดสด) แบบการทำงานไม่ใช่ขายของเหมือนที่คนไทยส่วนใหญ่รู้จัก การถ่ายทอดสดออกไปให้กับทีมงานหรือพนักงานในบริษัท ที่สามารถดูได้ในทุกที่ เช่น บนคอมพิวเตอร์ทั่วไป บนมือถือ ทำให้การทำงานจากที่บ้านหรือทำงานทางไกลง่ายขึ้นมาก มันยังมีฟังก์ชั่นการใช้งานอื่นๆ เช่น การโพสต์เรื่องราวต่างๆในการทำงาน การคุยกันเป็นกลุ่ม การโทรหากัน การส่งข้อความแจ้งเตือน การวางตารางงาน และ การใช้ video call

 

5. Asana

Asana โปรแกรมตัวช่วยในการทำงานจากที่บ้าน (working from home) ตัวนี้ คนไทยจะชอบอ่านชื่อมันอย่างง่ายๆว่า อาสนะ (คล้ายๆกับที่นั่งของพระสงฆ์) แต่มันมีความสามารถในด้านการทำงานแบบทางไกล ทำงานจากที่บ้านได้ดีมากๆ จนหลายคนอาจจะคาดไม่ถึง เครื่องมือนี้จะช่วยให้คุณสร้างสรรค์ผลงาน แจกและแบ่งงานต่างๆได้อย่างง่ายดาย รวมถึง จัดการงานแต่ละอย่างในแต่ละ project พร้อมกับสื่อสารไปยังพนักงาน เก็บการสนทนาพูดคุย รวมถึง ความคืบหน้าของงานทั้งหมดอีกด้วย นอกจากนั้นยังมีเรื่องของการใช้เชื่อมกับโปรแกรมพื้นที่เก็บไฟล์ เก็บเอกสาร เช่น google drive และ dropbox ด้วย มันช่วยให้คุณเฝ้าตรวจสอบงานแต่ละงาน ในแต่ละวันอีกด้วยคุณสามารถจัดตารางงานและมีการแจ้งเตือนได้แบบอัตโนมัติ

6. IDONETHIS

IDONETHIS เป็นโปรแกรมที่แม้ว่าจะไม่ได้ครอบคลุมการทำงานทั้งหมด เหมือนกับนั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศก็ตาม แต่มันก็มีประโยชน์สูงในเรื่องของการบริหารจัดการงานที่เฉพาะเจาะจง และ มีการติดตามผลเป็นขั้นเป็นตอน ตามระยะการทำงาน เหมาะสำหรับทีมงานที่ต้องการดูพฤติกรรมการทำงานของแต่ละโปรเจคที่แบ่งกันไป Work From Home (ทำงานจากบ้าน) เครื่องมือนี้จะสามารถให้คุณช่วยเก็บรายละเอียดของการทำงานในแต่ละวัน ความก้าวหน้าของผลลัพธ์ในแต่ละวัน จากสมาชิกในทีมของคุณ รวมถึง ส่งเป็นรายงานประสิทธิภาพการทำงานของแต่ละคน ตรงไปยังกล่องจดหมายในตอนเช้าของทุกวันอีกด้วย จากความสามารถของมันที่สามารถเก็บบันทึกทุกๆอย่าง ทุกขั้นตอนในการทำงาน ทำให้มันมีประสิทธิภาพมากในการติดตามผลงานของแต่ละคนในทีมที่ทำงานจากที่บ้าน

7. PukkaTeam

มันเป็นโปรแกรมที่น่ารักที่เดียว มันสามารถใช้พูดคุยผ่านวีดีโอซึ่งสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับพนักงานที่จำเป็นต้องทำงานจากที่บ้านได้อย่างดียิ่ง มันมีระบบที่น่าสนใจ คือ การจับภาพหน้าจอของแต่ละคนแบบอัตโนมัติ และ สามารถสื่อสารสร้างความใกล้ชิดกันในทีมงานของคุณ มันอาจจะไม่ใช่เครื่องมือที่ทำงานในรูปแบบบริษัทจริงจังมากนัก แต่การทำงานของมันก็ค่อนข้างจะสมบูรณ์แบบ ในเรื่องของการส่งข้อความและการสื่อสารกันระหว่างคนทำงานทั่วๆไป มีหลายบริษัทที่ใช้โปรแกรมตัวนี้ในการดูแลและจัดการงานของพนักงานแต่ละคน

8. Scoro

ถ้าจะ WORK FROM HOME และกำลังมองหาซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมซักตัว ในการบริหารงานแบบออนไลน์ Scoro ถือว่าเป็นโปรแกรมที่เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ทำงานจากที่บ้าน เพราะมันจะสามารถบริหารธุรกิจได้แบบครบวงจร ตั้งแต่การเริ่มแบ่งงาน และ ติดตามงานของพนักงานแต่ละคน รวมถึง ฟังก์ชันในการทำงานเหมือนคุณทำงานอยู่ในออฟฟิศ เช่น การวางบิล การส่งใบแจ้งหนี้ และ การสื่อสารต่างๆ รวมถึงมีการกระตุ้นให้สามารถสื่อสารและร่วมมือกันของพนักงานแต่ละคนได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญ มันสามารถอนุญาตให้ลูกค้าของคุณ เข้าร่วมในการสื่อสารแบบทางไกลได้อีกด้วย จึงทำให้มันเหมาะกับบริษัทที่ต้องการทำงานจากบ้านและยังต้องการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าภายนอกด้วย สำหรับเรื่องของการจัดการและการบริหารในแต่ละ project มันก็ทำงานได้อย่างดี มีระบบในการติดตามระยะเวลาการทำงาน มีส่วนของการวางแผนงานและจัดเป็นรายการที่ต้องทำในแต่ละวัน มีเรื่องของการนัดหมายการประชุม และ การจัดการงานเอกสารต่างๆ ถ้าพูดถึงเทคโนโลยีหรือเครื่องมือในการทำงานจากที่บ้านหรือทำงานทางไกล ต้องยอมรับว่านี่เป็นโปรแกรมอีกตัวนึงที่น่าใช้

9. Assembla

นี่คือ ตัวช่วยในการจัดการโปรเจคการทำงานและการสื่อสารของพนักงานในออฟฟิศที่เหมาะกับทีมงานและผู้ทำงาน ที่เรียกตัวเองว่า ฟรีแลนซ์ มันมีความแตกต่างและเป็นประโยชน์มากกว่าโปรแกรมตัวอื่นๆเล็กน้อย ในเรื่องของผู้ที่ทำงานด้านการพัฒนาเว็บไซต์ มันสามารถช่วยในการบริหารจัดการการทํางานเป็นทีม การรวมโค้ดของโปรแกรมต่างๆ มีรายงาน รวมถึง มีฟังก์ชันในการรักษาความปลอดภัยภายในโปรแกรมด้วย Assembla จะช่วย นักพัฒนาระบบ และ โปรแกรมเมอร์ ในการรวมโปรแกรมต่างๆเข้าด้วยกัน มีการตรวจสอบและสามารถวางแผนในการพัฒนาการ จัดการเรื่องการ deploy โปรแกรม การสร้างเอกสาร สำหรับบริษัทที่มีการทำงานจากบ้านและเกี่ยวข้องกับการเขียนโปรแกรมหรือสร้างเว็บไซต์ ควรมี

10. Basecamp

หนึ่งในโปรแกรมบริหารจัดการงานที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก Basecamp สามารถใช้ในการจัดเรียงลำดับงาน การวางตารางงาน การนัดหมายการประชุม การแจกจ่ายงานและระบุผู้รับผิดชอบงานในแต่ละงาน การดูแลเรื่องเอกสาร รวมถึง การกำหนดวิธีติดตามผลของแต่ละโปรเจครวมอยู่ในที่เดียว ที่สำคัญตัวโปรแกรมนี้ ยังสามารถเชื่อมต่อกันกับระบบคลาวด์ และ สามารถใช้งานได้ในหลายแพลตฟอร์มเช่น Windows Android OS เป็นต้น

11. HipChat

ลักษณะการทำงานของมัน มีความคล้ายคลึงกันกับตัวโปรแกรมที่ไว้พูดคุยและวีดีโอคอลแบบอื่นๆ แต่มันเป็นที่โด่งดังและหลายคนชื่นชอบเพราะว่า เป็นหนึ่งในเครื่องมือประจำออฟฟิศในหลายๆบริษัท มันได้รับความนิยมจริงๆ มันมีลักษณะการทำงานที่สามารถทำร่วมกันกับโปรแกรม skype ได้ด้วย มันสามารถเริ่มต้นสร้างโปรเจคงานต่างๆไปพร้อมๆกันกับผู้ร่วมงานคนอื่นๆในทีม และ ยังสามารถใช้เรื่องของการเมนชั่น (Mention) หรือการพูดถึงทีมงานคนอื่นๆแบบเฉพาะเจาะจงในบทสนทนาของแต่ละแชทอีกด้วย การพูดคุยกันเป็นกลุ่มโดยการใช้งานเมนชั่นหรือการกล่าวถึง (Mention) นี้ ทำให้การสื่อสารแบบทีมกับพนักงานที่ทำงานจากที่บ้าน ชัดเจนและไม่คลุมเครือ จนทำให้งานสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ลักษณะการทำงานอื่นๆที่มันสามารถช่วยได้ เช่น สามารถแชร์หรือแบ่งปันรูปภาพหน้าจอของแต่ละคน สามารถดูประวัติย้อนหลังการพูดคุย สามารถส่งไฟล์แบ่งปันเอกสารกันได้ภายในกลุ่ม รวมถึง มีการรักษาความปลอดภัยด้านข้อมูลที่ดี

Work-From-Home_HipChat

12. Zoom

ถ้าจะพูดถึงการ “Work from home” หรือทำงานจากที่บ้านแล้วจำเป็นต้องมีการประชุมแบบทางไกลหรือประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ต้องยกให้ Zoom เป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศไทย มันมีความคล้ายคลึงกับการทำงานของโปรแกรม google hangouts แต่เป็นรูปแบบที่มีความมาตรฐานกว่า และดูเป็นมืออาชีพมากกว่า ที่สำคัญมันยังสามารถรองรับการประชุมทางไกลหรือการใช้วิดีโอคอนเฟอเรนซ์ในจำนวนของผู้เข้าประชุมมากกว่าที่ google hangout สามารถทำได้ในแต่ละครั้ง คือรองรับผู้เข้าร่วมประชุมแบบทางไกลผ่านวีดีโอออนไลน์ได้สูงสุดถึง 1,000 คนในแต่ละครั้งเลยทีเดียว เครื่องมือในการประชุมทางไกลของ zoom มีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากๆ สำหรับใครที่อยากจะประชุมแบบใช้วีดีโอกับคนอื่นๆที่ทำงานจากที่บ้านสามารถประชุมกันได้แบบยาวๆ ใช้เวลาในการประชุมได้นานๆ และคุณยังสามารถสร้างระบบการเรียนรู้การอบรมออนไลน์ได้ มีเครื่องมืออีกหลายแบบในการทำงานลักษณะนี้ผ่านวีดีโอ ดังนั้น มันจึงมีความคุ้มค่าอย่างมาก ถ้าคุณอยากจะทดลองหาตัวช่วยในการประชุมผ่านวิดีโอกับคนอื่นๆที่เป็นทีมงานของคุณ มันสามารถช่วยเรื่องการทำงาน การสื่อสาร การสนทนาระหว่างเพื่อนร่วมงาน การแบ่งปันไฟล์เอกสาร การสื่อสารด้วยเสียง การส่งภาพหน้าจอ และ การนำเสนองานต่างๆ จึงไม่แปลกที่โปรแกรมทำงานจากที่บ้านอย่าง Zoom จะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศไทยขณะนี้

work_from_home_zoom

13. Confluence

Confluence มีการใช้งานระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดสำหรับการทำงานจากที่บ้านและการทำงานแบบทางไกล (Remote Work) มันสามารถจัดการเรื่องของเนื้อหาและ content ที่ส่งกันภายใน มันบริหารจัดการเอกสารตั้งแต่เอกสารขนาดใหญ่หรือแม้กระทั่งโน้ตข้อความสั้นๆ มีผู้นำมันไปใช้งานในการบริหารจัดการเรื่องของการเก็บข้อมูลความต้องการของพนักงานหรือความต้องการของลูกค้า (Customer Requirement) อีกด้วย  มันยังอนุญาตให้พนักงานแต่ละคนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในแต่ละ project ได้ แบ่งปันไอเดีย แนวความคิด ทุกอย่างจะสามารถรวมอยู่ในหน้าเดียวครบ แบบจบที่เดียว ทั้งการแปะโน๊ต การให้ข้อมูลเชิงลึก การแสดงความคิดเห็นและการตัดสินใจร่วมกันในแต่ละหัวข้องานอีกด้วย

Confluence-Work_From-Home

14. Wunderlist

เครื่องมือนี้สามารถใช้งานได้ทั้งในระบบมือถือและในรูปแบบของเว็บไซต์ wunderlist  คือ โปรแกรมบริหารจัดการงานที่สามารถให้คุณแบ่งปัน หรือ แชร์ตารางงานกับทีมงานและผู้ร่วมงานอื่นๆ มีการแจ้งเตือนในระหว่างการทำงานอีกด้วย ถ้าคุณทำงานจากที่บ้านและต้องการส่งความคืบหน้าของงานแต่ละงานให้กับผู้ร่วมงานคนอื่นๆให้ได้รู้โดยทั่วกัน นี่ถือว่าเป็นเครื่องมือที่เหมาะสมมากที่สุดที่จะสามารถทำงานแบบนั้นได้ มันอาจจะไม่ใช่โปรแกรมที่เหมาะสมในการพูดคุยแบบข้อความ แต่มันสามารถสื่อสารกับคนในทีมของคุณด้วย การส่งข้อมูลผ่านไฟล์เอกสารต่างๆและกระจายไปให้กับผู้ร่วมงานทุกคน

wfh-Wunderlist

15. Glip

การส่งข้อความแบบทันที และ มีการคุยกันแบบกลุ่ม คือ ประโยชน์ที่คุณจะได้รับจากการทำงานผ่านโปรแกรม Glip คุณสมบัติการทำงานของตัวช่วยในการทำงานจากที่บ้านตัวนี้มีหลากหลายและครอบคลุมการทำงานทางไกลได้อย่างแน่นอน เช่น เรื่องของการแชร์ไฟล์เอกสาร แบ่งปันเนื้อหาสำคัญระหว่างคนทำงาน การส่งข้อความแบบกลุ่ม การจัดการตารางงาน และ มีระบบติดตามผลในแต่ละการทำงาน มีการพูดคุยในรูปแบบของวีดีโอและรูปภาพผ่านการเชื่อมโยงสู่ระบบเก็บข้อมูลใน Cloud มันยังสามารถเปิดให้คุณค้นหาข้อมูลอื่นๆ เช่น บทสนทนาที่ผ่านไปแล้วเป็นระยะเวลานานๆ สามารถแจกจ่ายงานต่างๆให้คนในทีม เลือกหัวหน้าทีมในแต่ละงาน ติดตามผลการทำงานในแต่ละ project  สามารถดึงรายงานการทำงานของผู้ร่วมงานส่งไปให้ลูกค้าได้เห็นรายละเอียดอีกด้วย ถ้าต้อง ทำงานทางไกล หรือ ทำงานจากที่บ้านในช่วงระยะเวลาวิกฤต เครื่องมือนี้เป็นหนึ่งใน เครื่องมือที่น่าลองใช้

Work-at-Home-Glip

 

16. ScreenHero

หากทำงานอยู่คนเดียวที่บ้าน แต่อยากจะแบ่งปันหรือแชร์หน้าจอในการทำงานของคุณให้กับเพื่อนและผู้ร่วมงานคนอื่นๆในแบบออนไลน์ คุณสามารถใช้โปรแกรม ScreenHero ในการจับภาพหน้าจอในขณะที่คุณกำลังทำงานและส่งต่อไปให้คนอื่นๆที่ทำงานจากที่บ้าน เครื่องมือนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งในการที่พนักงานแต่ละคนต้องทำงานแยกกัน อยู่ในแต่ละที่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น ผู้พัฒนา หรือ คนทำงานด้านการออกแบบ หัวหน้างานและพนักงานอื่นๆสามารถเข้ามาร่วมแบ่งปันแนวความคิดไอเดียในทางเทคนิค และ สามารถช่วยกันปรับปรุงแก้ไขและนำเสนอเพื่อการพัฒนาของแต่ละโปรเจคในตอนนั้นได้อีกด้วย

Screenhero_work_home

 

17. Every Time Zone

หากการทำงานของบริษัทคุณ จำเป็นจะต้องมีการบริหารจัดการในเรื่องของตารางเวลาให้เหมาะสม เพราะมีการสื่อสารกันระหว่างทีมงานข้ามประเทศและข้าม time zone หรือมีเวลาในการทำงานต่างกันในแต่ละประเทศ ขอแนะนำเครื่องมือ Every Time Zone เพราะมันจะสามารถให้คุณช่วยดูแลจัดการทีมงานและเพื่อนร่วมงานของคุณได้อย่างง่ายดาย โดยการที่มันจะดูแลเรื่องของ วันและเวลาให้เหมาะสมกับทีมงานและพนักงานของแต่ละงานของคุณแบบข้ามประเทศข้ามเวลา หรือ time zone ของแต่ละประเทศได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นคุณก็ไม่จำเป็นต้องกังวลว่า การทำงานกับเพื่อนร่วมงานที่อยู่ต่างประเทศหรือมีเวลาทำงานไม่ตรงกันจะยากลำบาก เพราะเครื่องมือตัวนี้ จะช่วยให้คุณมีประสิทธิภาพในการทำงานกับเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆที่มีเวลาไม่ตรงกันได้ง่ายขึ้น

WORK-from_HOME-Every Time Zone

18. YouTube live

ฟังชื่อแล้วหลายคนอาจจะคิดว่า YouTube ไม่น่าจะสามารถช่วยเหลืออะไรได้ในเรื่องของการ Work From Home หรือ การทำงานแบบรีโมท ( Remote Work ) เพราะน่าจะเป็นพื้นที่ในการใช้เพื่อความบันเทิงในรูปแบบวีดีโอมากกว่า แต่หลายคนยังไม่รู้ว่า YouTube มีการให้บริการเครื่องมือในการทำงานรูปแบบบริษัทได้และดีมากด้วย YouTube live สามารถให้คุณบันทึกและส่งวีดีโอในรูปแบบ ถ่ายทอดสด ให้กับเพื่อนผู้ร่วมงานคนอื่นๆ และ ยังเหมาะที่จะใช้ในการนำเสนองาน อบรม สัมมนา และ อีเว้นท์ต่างๆ เพื่อโชว์หรือสาธิตและให้เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆมีส่วนร่วมได้เป็นอย่างดี เครื่องมือที่สมบูรณ์แบบ แบบนี้ มันยังสามารถส่งข้อความแบบกระจาย หรือ ที่เรียกว่า Broadcast ได้ด้วย ที่สำคัญสามารถทำงานได้ทั้งบน Laptop Notebook คอมพิวเตอร์ รวมถึง ทำงานบนมือถือ จากนี้หลายคนจะเริ่มมอง YouTube เปลี่ยนไปหากใช้ในการทำงาน

YouTube live WORK FROM HOME

 

19. GitHub

นักพัฒนาระบบ หรือ โปรแกรมเมอร์ ส่วนใหญ่ในโลก รวมถึง ในประเทศไทย รู้จัก Platform หรือเว็บไซต์ที่ชื่อ GitHub กันเป็นอย่างดี เพราะมันเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการพัฒนาโปรแกรมที่มีประสิทธิภาพ และ สามารถทำให้แต่ละ project มีประสิทธิผลที่แน่นอนชัดเจน สำหรับคนทำงานแบบทางไกลหรือทำงานจากที่บ้านให้สามารถทำงานร่วมกัน สนับสนุนกันในการเขียนโปรแกรม และ พัฒนาระบบ  หลายคนรู้จักว่ามันเป็นพื้นที่ที่ใช้งานสำหรับโปรแกรมเมอร์เท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วมันอนุญาตให้เราสามารถบริหารจัดการแต่ละ Project ในการทำงาน แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องของการพัฒนาซอฟต์แวร์ก็ทำได้ดีมากๆ

Work From Home GitHub

20. Jira

เป็นโปรแกรมหนึ่งที่ใช้กันอย่างกว้างขวาง ในการจัดการงานแบบกระจายให้กับคนในทีม มันโด่งดังเพราะว่า มีหลายๆบริษัทเกี่ยวกับการออกแบบใช้เครื่องมือนี้ในการทำงาน โดยหลักๆแล้ว มันใช้ในการสื่อสารระหว่างนักออกแบบ นักพัฒนา และ นักการตลาด มันสามารถช่วยในการระบุการทำงานในแต่ละโปรเจคให้กับทีมงานใน project นั้น Jira ยังมีเครื่องมือพิเศษในการช่วยเหลือนักพัฒนาในการวางแผนการทำงานเกี่ยวกับการสร้างโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์อีกด้วย มันสามารถทำงานแบบเชื่อมโยงอย่างไร้ที่ติได้กับโปรแกรมที่ใช้ในการทำงานจากที่บ้านตัวอื่นๆอีกด้วย

Jira WORK from home

 

21. Join.Me

อยากจะแบ่งปันหน้าจอการทำงานกับเพื่อนร่วมงาน รวมถึง อยากจะมีการประชุมผ่านเว็บแบบออนไลน์ นี่คือเครื่องมือที่มีความกระชับ ฉับไว รวดเร็ว เหมาะสำหรับคนทำงานจากที่บ้าน และ บริษัทที่พึ่งเริ่มต้นทดลองใช้ลักษณะการทำงานจากที่บ้าน โปรแกรมตัวนี้เป็นที่รู้จักกันอย่างดีว่า มีความสามารถในการให้ความละเอียดของการโทรทางไกลผ่านวิดีโอ หรือ ที่เรียกว่า วิดีโอคอล ( Video Call ) ได้ดีที่สุดตัวหนึ่ง และ มันเป็นที่เชื่อถือกันอย่างยิ่งว่า จะไม่มี การหลุด การค้างของหน้าจอ ขณะการคุยกันผ่านวีดีโออีกด้วย ดังนั้นเหมาะเป็นอย่างยิ่งที่คุณจะจัดการประชุมทางไกลผ่านเครื่องมือตัวนี้

Join me Working from your home

 

22. Dropbox

หนึ่งในพื้นที่เก็บข้อมูลที่โด่งดัง และ ได้รับความนิยมสูงสุดของโลก หากคุณต้องการเก็บข้อมูล เอกสาร รูปภาพ วีดีโอ แล้วแบ่งปันมันให้กับเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ที่แยกกันทำงานอยู่ที่บ้าน มันเป็นเครื่องมือที่สมบูรณ์แบบ ในการร่วมมือกันของการทำงานเป็นทีมแบบทางไกล ในเรื่องของระบบการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล ก็ทำได้อย่างดียิ่ง ในความเป็นจริงแล้วยังมี Application ตัวอื่นๆที่ใช้ในการเก็บข้อมูล แต่ก็ต้องยอมรับว่าหลายคนคุ้นเคยกับ dropbox มากกว่าตัวอื่นๆไปซะแล้ว

Working From Home Dropbox

 

23. Float

Float ใช้ในการจัดระเบียบและตารางการแบ่งปันทรัพยากรในการทำงาน สามารถบริหารจัดการงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในเรื่องของการระบุผู้รับผิดชอบในงานต่างๆ สามารถช่วยให้คนทำงานจากที่บ้าน “work from home” หรือ ทำงานทางไกล “remote work” ได้ดูแลความก้าวหน้าของงานของตัวเองได้อีกด้วย มันมีการใช้งานที่ง่ายและเป็นโปรแกรมที่มีขนาดเล็กกระทัดรัด แต่สามารถใช้ได้กับบริษัทที่มีพนักงานไม่มาก ไปจนถึงบริษัทขนาดใหญ่ที่มีพนักงานหลายพันคน เครื่องมือที่น่าใช้ของมัน คือ การจัดตารางงานแบบทันทีทันใด มีเครื่องมือในการเรียบเรียง ปรับแต่งตารางงานนี้อีกด้วย และยังสามารถจัดงานแบบซ้ำๆได้ดี รวมถึง งานที่อาจเกิดขึ้นในวันหยุด คุณยังสามารถค้นหาและเรียงลำดับของงานที่ใกล้ถึงกำหนดเดดไลน์ และ จัดหมวดหมู่กลุ่มงานได้อย่างอิสระ

Float-working-from-home

 

24. Jell

Jell เป็นโซเชียลมีเดียสำหรับผู้เชี่ยวชาญ หรือ มืออาชีพ ใช้งานได้สำหรับทีมที่ต้องทำงานจากที่บ้าน มันคือหนึ่งในเครื่องมือที่น่าจะมีหลายคนรู้จัก เพราะว่ามันสามารถช่วยงานได้เป็นอย่างดี มันอนุญาตให้เราสามารถ ทำงานแบบเสมือนจากทางไกล หรือ ทำงานจากที่บ้านได้ เช่น การพูดคุยกันระหว่างเพื่อนร่วมงาน การปรึกษาหารือ การแบ่งปันข้อมูลอัพเดท และ การแชร์แผนงานและเป้าหมายต่างๆ รวมถึง คุณยังสามารถตรวจสอบความก้าวหน้าของงานแต่ละงานของเพื่อนร่วมงานได้อีกด้วย มันจะช่วยให้คุณเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานจากที่บ้านของคุณได้อย่างเห็นผลแน่นอน

WorkingFromHome-Jell

 

25. Podio

เรียกง่ายๆว่า โปรแกรมหรือเครื่องมือนี้ เป็น social network ที่ใช้สำหรับธุรกิจ เพราะมันเป็นโปรแกรมในการบริหารจัดการ project หรือ ที่เรียกว่า project management system ซึ่งมีความใกล้เคียงกันกับโปรแกรมบริหารจัดการงานอื่นๆ แต่มันสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับเรื่องนี้เลยทีเดียว มากไปกว่านั้นมันยังสามารถใช้ในการสนทนาหรือแชทกันระหว่างคนทำงานได้อีกด้วย ความสามารถของโปรแกรม คือ มันจะสามารถติดตามผลการทำงานของแต่ละคนในทีมผ่าน network ได้ รวมถึงยังสามารถสนทนา พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนร่วมงานทางไกลได้ทุกคน การทำงานอื่นๆก็น่าใช้ เช่น การสามารถปรับแต่งให้เชื่อมโยงกับกลุ่มลูกค้า มีพื้นที่เก็บข้อมูลแบบไม่จำกัด การดูแลตารางงานของทีมงานแต่ละคน เป็นหนึ่งในเครื่องมือหรือซอฟต์แวร์ที่น่าใช้ตัวหนึ่ง

Podio-WorkingFromHome

 

26. Pivotal Tracker

ถ้าใครรู้จักการทำงานแบบ Agile ระบบการทำงานของเครื่องมือนี้ใช้ในการติดตามผลการทำงานของโปรเจคที่ใช้ระบบการทำงานแบบ agile ได้ดีที่สุด เพราะมันสามารถทำให้ธุรกิจทำงานไปในระหว่างที่พนักงานแต่ละคนทำงานมาจากคนละที่ หรือ บางคนต้องทำงานจากที่บ้าน มันมีความเฉพาะตัว นั่นก็คือ สามารถวางแผนงานได้แบบอัตโนมัติ รวมถึง มีฟังก์ชันการทำงานเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนแผนตารางงานให้ง่าย และ มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้อีกด้วย มันสามารถติดตามผลการทำงานของทีมงานของคุณ รวมถึง คุณยังสามารถกำหนดเป้าหมายและความสำเร็จในแต่ละโปรเจคให้กับแต่ละคนในทีมได้ ดังนั้น จึงทำให้ง่ายขึ้นในการเห็นความสำเร็จและเป้าหมายของการทำงาน ในส่วนอื่นๆ มันก็ยังมีความสามารถพร้อมให้คุณใช้งานได้ เช่น การสร้างโน้ต การกำหนดระยะเวลาการทำงาน การตั้งเป้าหมายและการจัดความสำคัญของแต่ละงาน

Work-FROM-home-PivotalTracker

 

27. Skitch

มันคือโปรแกรมที่มีพื้นฐานในการสื่อสารและแบ่งปันข้อมูลกันเป็นหลัก มันจะอนุญาตให้คุณใช้สื่อสารและแสดงความรู้สึกของคุณกับเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆที่ทำงานแบบ Working from Home ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ งานออกแบบ งานสเก็ตภาพ งานออกแบบวัตถุ packaging ต่างๆ ที่เป็นสัญลักษณ์ เป็นรูปแบบ เป็นลวดลายต่างๆเหมาะสำหรับคนทำงานด้านออกแบบและดีไซน์เป็นอย่างยิ่ง เห็นได้ชัดว่าเจ้าเครื่องมือนี้มีจุดน่าสนใจหลายอย่าง และ ที่สำคัญมันสามารถผนวกรวมกับโปรแกรมอื่นๆที่เกี่ยวกับการออกแบบ ดังนั้น บริษัทนักออกแบบต่างๆ หรือ ธุรกิจเกี่ยว graphic design ควรอย่างยิ่งที่จะลองเลือกหามาใช้กันดู

Skitch-WORK_frOM-hOmE

 

28. Taskworld

หากคุณต้องบริหารจัดการงานจากที่บ้านของคุณ (WORK FROM HOME) ในฐานะผู้ดูแลโปรเจคและยังเป็นผู้ที่รับผิดชอบ และ มีหน้าที่ในการแจกแจงงานให้กับทีมงานแต่ละคน คุณควรเลือกใช้โปรแกรมในการติดตามผลการทำงาน ที่ชื่อ Taskworld ตัวนี้อย่างยิ่ง มันสามารถประเมินผล คาดการณ์วัน/เวลา และ ความรับผิดชอบ รวมถึงปริมาณการทำงานและจำนวนคนในแต่ละงานได้อีกด้วย ฟังก์ชั่นการใช้งานก็มีครบถ้วนให้สำหรับคนที่ต้องทำงานจากที่บ้าน เช่น การพูดคุยกันแบบข้อความ หรือ การบริหารจัดการงานและแก้ไขตารางงาน ปรับเปลี่ยนได้จากทีมงานทุกคน มีรายงานมีการสนทนาพูดคุยแลกเปลี่ยน รวมถึง ยังสามารถใช้งานร่วมกับอีเมลอื่นๆได้อีกด้วย

taskworld-WORK_frOM-hOmE

 

29. Trello

ชื่อชั้นของเครื่องมือตัวนี้ มีมาอย่างยาวนานและหากใครเป็น ผู้จัดการ project หรือ project manager ย่อมคงเคยได้ยินเครื่องมืออย่าง เทริโอ (Trello) ตัวนี้กันมาบ้างแล้ว ในเมื่อคุณต้องให้ทีมงานของคุณแต่ละคนทำงานจากที่บ้าน  ถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องหยิบมันมาปัดฝุ่นและใช้งานอย่างจริงจังอีกครั้ง เพราะเครื่องมือนี้เหมาะสมอย่างยิ่งในการสร้างการมีส่วนร่วมในแต่ละงานของทีมงานของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลการทำงานแต่ละโปรเจค ความสำคัญของงาน การดูแลว่า project ไหนสิ้นสุดลงแล้ว หรือ project ไหนจำเป็นต้องการดูแลอย่างใกล้ชิด ทุกอย่างสามารถทำผ่านโปรแกรมนี้ได้ คุณจะสามารถสร้างงานย่อย แยกออกมาจาก project หลักของคุณได้ เช่น งานขาย งานพัฒนาระบบ งานตรวจสอบระบบ และ คุณยังสามารถแบ่งงานต่างๆให้กับทีมงานของคุณแต่ละคนได้อย่างง่ายดาย แถมยังติดตามผลได้ตลอดเวลา เพราะมีหน้าจอในการดูแลข้อมูลที่อัพเดตอยู่เสมอ มันจึงทำให้ทีมงานที่ต้องทำงานทางไกลหรือทำงานจากที่บ้านทุกคนได้มีส่วนร่วมในการทำงานอย่างแท้จริง

Work From Home Trello

 

30. Sandglaz
ถ้าต้องการบริหารงานแต่ละงาน และ ต้องการความร่วมมือของพนักงานในทีม แต่ทั้งหมดจำเป็นต้องเกิดขึ้นแบบทางไกลที่ทีมงานของคุณอาจจะแยกย้ายกันทำงาน โปรแกรมนี้เป็นที่น่าสนใจทีเดียว การทำงานแบบสตาร์ทอัพและคนรุ่นใหม่ที่มีลักษณะการทำงานที่เรียกว่า Agile นี่คือหนึ่งในเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่สุดตัวหนึ่ง มันสามารถสร้างงานแบบอัตโนมัติได้ ลดงานและระยะเวลาที่ต้องใช้ สำหรับผู้บริหารจัดการงานหรืองาน admin ได้มากทีเดียว ในรูปแบบการทำงานที่สามารถปรับปรุงเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา คนในทีมหรือผู้ร่วมงานสามารถนำเสนอปรับปรุงเปลี่ยนแปลง และ เพิ่ม หรือ ขยายระยะเวลาของแต่ละโปรเจคได้ ถ้าใช้เครื่องมือนี้ทุกอย่างจะเป็นไปได้อย่างยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ มันอำนวยความสะดวกในเรื่องของการบริหารจัดการงานที่จำเป็นจะต้องเห็นภาพอย่างชัดเจน รวมถึง สามารถดูย้อนหลังประวัติการทำงานต่างๆที่เคยทำผ่านมาทั้งที่เสร็จแล้ว และ ยังมีงานค้างอยู่ผ่านหน้าจอของทีมงานแต่ละคนอีกด้วย

31. LINE 
ไลน์ ในเวอร์ชั่นที่ใช้งานบนเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือ LINE PC (ตั้งแต่ v5.23.0 ขึ้นไป) สามารถแชร์หน้าจอของคุณ ในขณะวิดีโอคอลแบบกลุ่มได้ ดังนั้น จึงทำให้มันมีความสามารถที่จะนำมาใช้ในการทำงานจากที่บ้านได้ ข้อสำคัญ ไลน์เป็นแอพฯที่เรียกได้ว่าคนไทยคุ้นเคยและนิยมใช้กันมากที่สุดตัวหนึ่ง ทำให้คุณและเพื่อนร่วมงานของคุณไม่จำเป็นต้องเรียนรู้อะไรใหม่มากมายนัก สามารถเริ่มทำงานจากที่บ้านได้ทันที
LINE video call - work from home
                         

 

นี่คือ ทั้ง 31 เครื่องมือที่จะสามารถให้คุณช่วยในเรื่องของการทำงานทางไกล หรือ ทำงานจากที่บ้านได้ง่ายขึ้น และ มีประสิทธิภาพมากขึ้น อาจจะมีประสิทธิภาพมากกว่าที่คุณทำงานอยู่ในออฟฟิศกับเพื่อนร่วมงานของคุณด้วยซ้ำ มันจะช่วยประหยัดเวลา เพิ่มประสิทธิผลของการทำงาน ในแต่ละเครื่องมือจะมีความเฉพาะเจาะจง มีเรื่องของคุณภาพและฟังก์ชั่นการใช้งานที่แตกต่างกันไป ดังนั้น คุณอาจจะต้องทดลองใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับการทำงานของบริษัทของคุณ และเหมาะสมกับทีมงานที่จะต้องทำงานทางไกล Remote Work หรือ ทำงานจากที่บ้าน Work from home เมื่อหาจุดลงตัวได้แล้ว คุณน่าจะเริ่มชอบความท้าทายของการทำงานนอกออฟฟิศมากกว่าเดิม

 

คุณสามารถร่วมแสดงความคิดเห็นในหัวข้อนี้ได้ ด้วยการฝากข้อความคอมเม้นต์ไว้ด้านล่างบทความนี้ หรือ ทักเข้ามาที่ไลน์ @brandingchamp เพื่อพูดคุยกันในเรื่องนี้ได้ตลอดเวลา 

 

Work-From-Home-App

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *