tiktok (ติก ตอก) v.s. facebook สงคราม โซเชี่ยลมีเดีย … โลกต้องจับตา!

tiktok (ติก ตอก) v.s. facebook สงคราม โซเชี่ยลมีเดีย … โลกต้องจับตา!

tiktok 

tiktok v.s. facebook ถ้าจะพูดถึง สงครามระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกาและจีนนั้น ไม่ได้มีเพียงเรื่องของเศรษฐกิจและการกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศเท่านั้นเรื่องนี้ยังลามปามไปถึงการใช้งาน social network อีกด้วยและสิ่งที่เกิดขึ้นและน่าจับตามอง นั่นก็คือ สงครามระหว่าง พระเอกเกิดใหม่อย่าง Tik tok กับเจ้าถิ่นจอมเก๋า อย่าง facebook

 

Tik tok กำลังคลืบคลานและจู่โจม facebook โดยเริ่มจากพนักงานของ facebook ก่อนเป็นอันดับแรกต้องขอบคุณสตาร์ทอัพอย่างติ๊กต๊อกที่เติบโตได้อย่างรวดเร็วแถมยังจ่ายให้ผลประโยชน์ยังงามอีกด้วย

 

ดูเหมือนกับว่า facebook ยังไม่ได้เริ่มมีความกังวลใดๆกับโซเชียลมีเดีย อย่าง tik tok ที่เดินหน้าจู่โจม ด้วยการขโมยพนักงานของเขา บริษัทของประเทศจีนอีกมากมายก็ยังเริ่มเข้าดึงตัวทีมงานของมาร์คซัคเคอร์เบิร์กอยู่เรื่อยๆมากไปกว่านั้นติ๊กต๊อกเองก็เข้ามาเปิดออฟฟิศอยู่หลังบ้าน facebook ในซิลิคอนวัลเลย์เลยด้วยซ้ำ

 

จากรายงานข่าวของ CNBC ถึง tik tok (ติก ตอก) ซึ่งเป็นบริษัทของประเทศจีนที่มีชื่อว่า ByteDance ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้ได้มีการย้ายเข้ามาลงหลักปักฐานในบ้านเจ้าถิ่นอย่าง facebook โดยมีทำเลที่ตั้งอยู่ที่ WhatsApp ซึ่งเป็นบริษัทที่ถูกซื้อไปโดย facebook นั่นเอง ทำเลที่ตั้งตรงนี้ห่างไปจาก facebook สำนักงานใหญ่ (Headquater) ที่ เมลโล่ปาร์ค เพียงไม่กี่ไมล์เท่านั้น

 

ByteDance-tik-tok
ByteDance-tik-tok

 

เล่าถึงบริษัท ไบร์ทแดนซ์ ByteDance คือ บริษัทเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตของประเทศจีน ซึ่งมีการดำเนินการและใช้เทคโนโลยีหลากหลายทางด้าน machine learning เพื่อเข้ามาผนวกกับแพลตฟอร์มสร้างการสร้างคอนเทนต์ content ตัวอย่างเช่น tik tok , Toutiao, Xigua video และอื่นๆอีกมากมายซึ่งบริษัทถูกประเมินมูลค่าสูงถึง 78 พันล้านเหรียญสหรัฐในเดือนพฤศจิกายนปี 2018 และมันยังถูกจัดให้เป็นยูนิคอร์นที่ทรงคุณค่าที่สุดของโลกในขณะนี้

 

ByteDance มีผู้ก่อตั้งคือ Zhang Yiming ฉางยี่หมิง ในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ในปี 2012 ได้มีการปล่อยผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นเรือธงของบริษัทออกมาโดยมุ่งเน้นให้เป็น application ในการผสมผสานเนื้อหาข่าวภาษาจีนโดยตั้งชื่อว่า Jinri Toutiao ซึ่งแปลความหมายออกมาหมายถึง ข่าวพาดหัวรายวัน โดยตัวแอปพลิเคชั่นยังมีความสามารถในการเลือกและจัดสรรเนื้อหาข่าวรวมทั้งความบันเทิงส่งถึงผู้ใช้งานในรูปแบบที่ปรับเปลี่ยนได้ตามเฉพาะความชอบส่วนบุคคลของผู้ใช้

 

ผู้ก่อตั้ง ByteDance เจ้าของ tik tok
Zhang Yiming ผู้ก่อตั้ง ByteDance เจ้าของ tik tok

 

หลังจากนั้นก็ได้มีการปล่อยแอปพลิเคชั่นออกมาอีก 4-5 ตัวจนในที่สุดเมื่อ ปี 2017 เดือนสิงหาคม ก็ได้ทำการเปิดตัวแอพพลิเคชั่นอย่าง Tik tok ติ๊กต๊อก หรือที่เรียกว่า douyin 抖音 ในภาษาจีน ซึ่งถูกปล่อยออกมาสู่ตลาดนานาชาติและประสบความสำเร็จไปอย่างกว้างขวางโดยมีผู้ใช้งาน active user สูงถึง 500 ล้านคนโดยเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่มีอายุระหว่าง 16-24 ปีทั่วโลก

 

TikTok ติ๊กต่อก คือ โซเชียลมีเดีย แอพพลิเคชั่น ที่มีอยู่ทั้งในระบบปฏิบัติการ iOS และ android ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น วีดีโอ แอพฯ (Video application) ที่สามารถสร้างและแชร์ วีดีโอสั้นๆ อย่างเช่น การลิปซิ้ง Lip-sync วีดีโอตลก รวมถึงวีดีโอแสดงความสามารถและทักษะเฉพาะตัว 

 

กลับมาเที่ยวเรื่องราวของสงครามกันต่อ ติ๊กต่อก และ บริษัทแม่อย่าง ByteDance ได้มีการโพสต์รับสมัครงานหลายตำแหน่งในแถบของเมืองซานฟรานซิสโกตั้งแต่ปีที่แล้ว บริษัทได้มีการจ้างพนักงานไปแล้วมากกว่า 20 คนซึ่งดึงโดยตรงมาจาก facebook

 

พนักงานเก่าของ facebook 2 คนที่ย้ายมาทำงานกับ tik tok บอกว่าความน่าดึงดูดใจของติ๊กตอกมาจากการที่มันเป็นบริษัท social media ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและเนื่องด้วยประสบการณ์ที่น่าสนใจของการเติบโตอย่างรวดเร็วมาก และที่สำคัญและเป็นจริงอย่างยิ่งต่อพวกเขา บริษัทติ๊กต๊อกนี้ ให้รายได้เป็นเงินเดือนมากกว่าที่ facebook ให้ ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ จึงทำให้พนักงานเริ่มสนใจที่จะโยกย้ายกันเป็นอันมาก

 

ติก ตอก
ติก ตอก

 

สำนักข่าว CNBC ระบุว่า facebook ไม่เพียงแค่เป็นบริษัทที่ถูก tik tok โจมตีด้วยการดึงตัวพนักงาน บริษัทอย่าง แอปเปิ้ล YouTube อเมซอนและสแนปแชทก็มีพนักงานโยกย้ายออกไปอยู่กับ tiktok กันอย่างมากมาย

 

ขณะที่ facebook ก็ยังเจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆด้วยปริมาณของผู้ใช้งานที่มีการใช้งานอยู่อย่างปกติ active user ทั่วโลกที่สูงถึง 2.4 ล้านคนต่อเดือน แต่ facebook ก็ถูกมองว่าเป็น social network สำหรับคนแก่ไปเสียแล้ว

 

โดยมีการสำรวจเมื่อเร็วๆนี้ บอกว่า 30% ของกลุ่ม generation Z หรือบุคคลที่เกิดหลังจากปี 1996 บอกว่าพวกเขาไม่ใช้ facebook กันแล้วและมีความชื่นชอบใน application อย่าง Snapchat YouTube และ Instagram มากกว่า 

 

และก็ยังมีการสำรวจก่อนหน้านั้นที่ออกมาอีกมากมาย บอกว่า social media อย่าง facebook เองกำลังสูญเสีย กลุ่มวัยรุ่น และ millennials ไปเป็นอย่างมาก

 

TikTok เปิดให้ผู้ใช้สามารถสร้างวีดีโอสั้นๆที่น่าสนใจได้ด้วยตัวของพวกเขาเองและบ่อยครั้งที่มีดนตรีเป็นแบล็คกราวให้แบบฟรีๆด้วย ด้วยตัว แอพพลิเคชั่นอย่างติ๊กต่อกเองและบริษัทแม่อย่าง ByteDance ได้มีการอ้างว่ามีผู้ใช้งานต่อวันมากกว่า 700 ล้านคนทั่วโลก 

 

tik-tok-vs-facebook
tik-tok-vs-facebook

 

แต่ facebook เองก็ไม่ได้น้อยหน้าด้วยการตั้งเป้าที่จะดึงส่วนแบ่งการตลาดกลับมาด้วยการออกจาก application ตัวใหม่อย่าง Lasso ที่เกือบจะเรียกได้ว่าเป็นแอปที่เหมือนกันกับ tiktok อย่างกับแกะ รวมถึงยังมีรายงานออกมาว่า instagram เองก็มีการเพิ่มลูกเล่นที่เป็น tik tok สไตล์เข้ามาในการทำคลิปวีดีโอด้วย

 

มาร์คซัคเคอร์เบิร์ก กล่าวว่า ติ๊กตอก เป็นผลิตภัณฑ์ทางอินเทอร์เน็ตของผู้บริโภคอันแรกที่ถูกสร้างด้วยบริษัทเทคโนโลยีจากประเทศจีนและมันค่อนข้างจะไปได้ด้วยดีทั่วโลกแล้วมันก็ยังไปได้ด้วยดีในประเทศสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มวัยรุ่น

 

อย่างไรก็ตาม facebook ยังไม่ได้มีการตั้งให้ติ๊กต๊อกเป็นหนึ่งในคู่แข่งเหมือนกับ twitter และสแนปแชทแต่อย่างไรก็ตาม facebook เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจและจับตาดูติ๊กต๊อกอย่างใกล้ชิดอยู่ตลอดเวลา

 

มีบางรายงานกล่าวว่ามาร์คซัคเคอร์เบิร์กกำลังเข้าใจผิดเกี่ยวกับการคุกคามครั้งใหญ่ของ tiktok แต่อย่างไรก็ตาม facebook ก็รู้ว่าติ๊กต๊อกมีความนิยมมากขึ้นแค่ไหนและเติบโตในตลาดระดับสากลได้ดีขนาดไหนดังนั้นจึงทำให้ facebook เองก็มีความพยายามอยู่ระดับนึงที่จะศึกษาพฤติกรรมเหล่านี้รวมถึงการออกแอพพลิเคชั่น Lasso ที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นเพื่อมาแชร์ส่วนแบ่งการตลาดกลุ่มนี้

 

lasso facebook vs tiktok bytedance
lasso facebook vs tik tok bytedance

 

Lasso คือ โซเชียลมีเดียรูปแบบ วีดีโอแอพพลิเคชั่น ของ facebook ที่เรียกได้ว่าเหมือนกับ การโคลนนิ่ง tik tok มาเลยด้วยซ้ำแต่สำหรับประเทศไทยของเรายังไม่สามารถดาวน์โหลดเจ้า application ตัวนี้ได้

 

เนื่องจากทาง facebook ยืนยันว่าเจ้า Lasso ตัวนี้ ทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ android อนุญาตให้ใช้เฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้นแต่ก็มีความเป็นไปได้ที่ facebook จะปล่อยให้ชาวโลกได้ใช้กันในเร็ววัน

 

สงครามของ social media ที่เกิดขึ้นระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนนั้นก็คงยังต้องดูกันต่อไปยาวๆเพราะในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วพฤติกรรมของผู้บริโภคก็เปลี่ยนแปลงไปจนแทบจะไม่สามารถทำนายอนาคตใดๆได้เลย

 

ดังนั้นไม่ว่าจะเป็น Tik tok ของ ByteDance หรือ Lasso ของ Facebook วันหนึ่งก็อาจจะถูกผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามากลืนกินส่วนแบ่งทั้งหมดก็เป็นได้และไม่แน่ด้วยความคิดความฝันเล็กๆมันอาจจะเป็น social network ที่เกิดจากคนไทยหรือ start up จากประเทศไทยก็เป็นได้

 

คุณสามารถร่วมแสดงความคิดเห็นในหัวข้อของ Tiktok v.s. facebook สงคราม โซเชี่ยลมีเดีย ได้ง่ายๆด้วยการ comment ด้านล่างบทความนี้หรือทักมาเพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกันได้โดยตรงที่ LINE  @brandingchamp

 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *