เซลขายรถ เซลล์ขายรถ ต้องฟัง! ห้าม สมัคร ถ้ายังไม่รู้เรื่องนี้ [อัพเดทล่าสุด]

เซลขายรถ

เซลขายรถ หรือ เซลล์ขายรถ ในยุคดิจิทัล ไม่เหมือนกับ อาชีพเซล ขายรถ ในอดีตอีกต่อไปแล้ว ยุคสมัยเปลี่ยนรูปแบบของการซื้อ พฤติกรรมการซื้อของลูกค้าเปลี่ยน ดังนั้น การขาย ก็ไม่สามารถทำเหมือนเดิม รูปแบบเดิมๆ แล้วหวังผลให้ได้ยอดขายเหมือนเดิม แทบจะเป็นไปไม่ได้แล้ว ยิ่งเทคโนโลยีดิจิทัลเกิดขึ้นใหม่มากมาย อีกทั้งโซเชี่ยลมีเดีย และ ช่องทางออนไลน์ มีให้เลือกหลากหลาย ดังนั้น วันนี้ หากใครต้องการกระโดดเข้ามาในวงการเซลขายรถ จำเป็็นต้องรู้เรื่องเหล่านี้เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกอาชีพซะก่อน เอาเป็นว่า บทความนี้แค่บทความเดียว ครบจบ คุณจะสามารถทำให้ตัดสินใจได้เลยว่า พร้อมจะประกอบอาชีพ เซลขายรถ นี้หรือไม่ หรือ ถ้าตัดสินใจแล้วว่าจะเป็น ต้องเตรียมตัวหรือมีทักษะอะไรพร้อมไว้บ้าง

 

เซลล์ขายรถ อาชีพสำหรับคนรักงานบริการ ยิ้มเก่ง ใจเย็น ชอบพูดชอบคุย ชอบพบปะผู้คน  บุคลิกภาพเป็นเรื่องสำคัญ เรื่องพวกนี้ เป็น มาตรฐานของ เซลล์ ที่ควรต้องมีอยู่แล้วเป็นอันดับต้นๆ

 

 

ในสถานการณ์บ้านเมือง เศรษฐกิจ รวมทั้งสถานการณ์โรคระบาดโควิด19 เซลขายรถ ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเรื่องเหล่านี้ไม่มากก็น้อย สภาวะแบบนี้ผู้บริโภคมีความกังวลในการจับจ่ายใช้สอยสูง เซลล์ ยิ่งต้องทำงานหนักกว่าเดิม เพราะค่าคอมมิชชั่น เรียกได้ว่าเป็นรายได้หลักมากกว่าเงินเดือนเสียด้วยซ้ำ

 

เซลล์ขายรถยนต์ ถ้าต้องการรายได้ที่ดี เงินเดือนอย่างเดียวคงไม่เพียงพอแน่นอน หน้าตาดี บุคคลิกดี อาจจะไม่เพียงพอให้ได้ค่าคอมเยอะอีกต่อไปในยุคนี้ การเป็น  เซลขายรถยนต์ ต้องมีใจรัก งานบริการ ต้องเจอลูกค้าหลากหลายประเภท เป็นเซลล์ขายรถ ต้องรับให้ได้ กับ ความหลากหลายทางอารมณ์ของลูกค้า และ ต้องมีวิธีรับมือ

 

แม้ว่า ประเทศไทย จะไม่ได้รับผลกระทบในเรื่องของโรคระบาดโควิด19รุนแรงเหมือนกับประเทศอื่นๆแต่ปัญหาเศรษฐกิจที่เป็นผลพวงจากการระบาดของโรค ทำให้เงินในกระเป๋าลูกค้ากระเด็นออกมาได้ยากขึ้นไปอีก เมื่อผู้บริโภคกังวลในเรื่องเศรษฐกิจก็ย่อมต้องลดการใช้จ่าย เริ่มรัดเข็มขัด อย่างไรก็ตาม รถยนต์ยังถือเป็นปัจจัยหลักของการใช้ชีวิตและการทำงานในยุคปัจจุบัน รถยนต์ในกลุ่มที่เป็นอีโคคาร์ตามวิถีชีวิตคนเมือง รถกระบะและรถบรรทุกเพื่อใช้งาน ยังเป็นกลุ่มที่มีความต้องการอยู่

 

 

ปี 2561 ตลาดรถ ประเทศไทย ทำยอดขายเกิน 1 ล้านคัน รวมทุกยี่ห้อ
ปี 2562 ก็ขายที่ดีไม่แพ้กัน อย่างไรก็ตาม ยอดขาย
รถยนต์นั่ง ลดลงกว่า 3.2% มียอดขาย 384,900 คัน ยอดขาย รถกระบะ ลดลง 3.7% มียอดขาย 430,500 คัน ส่วนรถยนต์ไฟฟ้า รถไฮบริด และ รถอีโคคาร์ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 

 

จากสถิติแล้ว ไม่ใช่ว่าเป็น เซลล์ขายรถ เงินเดือนน้อย แล้วรายได้จะน้อย เพราะ ค่าคอมมิชชั่นรวมกับโบนัส นี่แหละ เป็นจุดขาย ที่ทำให้คนอยากเป็น เซลขายรถยนต์ หน้าที่ของเซล คือ ปิดการขาย บางคนมีประสบการณ์ผ่านงานมาเยอะ อาจมีรายได้ต่อเดือน ถึง 30,000 – 40,000 บาท เพราะ รู้จักคนเยอะ มีฐานลูกค้า ลูกค้าเก่าบอกต่อ เซลล์ขายรถหน้าใหม่อาจจะยากแทนที่จะขายรถได้ตามเป้า บางคนขายไม่ได้ เข้าเนื้อตัวเอง สุดท้ายก็อาจจะไปไม่รอดในอาชีพนี้ 

เซลล์ขายรถ ได้ค่าคอม เท่า ไหร่ 2566 , เซลล์ขายรถ ได้ค่าคอม เท่า ไหร่ 2567

เงินเดือน และ ค่าคอมมิชชั่น ขึ้นอยู่กับแต่ละค่ายรถ เงินเดือนของแต่ละค่ายไม่เท่ากัน ส่วนใหญ่เงินเดือนไม่สูง อยู่ที่ประมาณ 7,000 – 9,000 บาท บางค่ายรถไม่มีการกำหนดเงินเดือนด้วยซ้ำ ให้ค่าคอมอย่างเดียว โดยหวังกระตุ้นให้ขายได้มากๆ แต่ส่วนมาก เซลส์ขายรถได้ค่าคอม 5,000 ขึ้นไปถือเป็นขั้นต่ำ 

 

และนี่ เป็นมุมมองที่ เซลล์ขายรถยนต์ ต้องให้ความสำคัญและต้องปรับตัว วางกลยุทธ์การขาย หาวิธีโน้มน้าวใจลูกค้า สำหรับเซลล์รุ่นเก๋า ที่มีฐานลูกค้า อาจจะไม่จำเป็นต้องออกแรงมากเท่ากับ เซลล์ขายรถมือใหม่ ที่จำเป็นต้องสร้างตัวตนในโลกดิจิทัล ให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มลูกค้า เพื่อตามมาซึ่งเป้ายอดขาย

 

มาลองฟังประสบการณ์จริง ประสบการณ์ตรง ของ เซลขายรถรุ่นพี่ที่เล่าแบ่งปัน

 

เรื่องเงินเดือน ค่าคอมฯ ต้องเลือกศูนย์ดีๆ ไม่เท่ากันซักที่ ไม่คงที่ เหมือนตำแหน่งอื่นๆจากประสบการณ์ เซลล์ หลายค่าย และ ประสบการณ์ของเพื่อนเซลล์ค่ายต่างๆ ทางภาคเหนือ

1. เดือนขายดี ก็รวยเละ บางเดือนขายไม่ได้ แทบเข้าเนื้อ อันนี้เป็นทุกที่
   
2. บางที่ ไม่มีเงินเดือนให้ ให้แค่ค่าคอม บางที่ก็ 3,000 / 5,000 / 7,000 แตกต่างกันไปแล้ว ให้ค่าคอมต่างหาก แต่ ถ้าขายไม่ได้โดนหัก 

3. ยี่ห้อขายดีมักจะเงินเดือนน้อยกว่า ถ้าขยัน ลูกค้าติดก็รายได้แซงพวกเงินเดือนเยอะได้ 
4. บางที่ให้เป็น ขั้น เช่น ขาย 1 คันได้ 1000 / 3 คันได้ 6,000 / 5 คันขึ้นได้ 15,000 
5. บางดีลเลอร์ให้ค่าคอม เมื่อขายพวก อุปกรณ์เสริม Accessory ขายไฟแนนซ์ รวมถึง ประกัน บางดีลเลอร์ ไม่ให้เลย 

6. เบี้ยเลี้ยงออกพื้นที่ ต่างอำเภอ ต่างจังหวัด มีตั้งแต่วันละ 50 บาท ถึง 200 ต่อวัน เเตกต่างกันไป

ขอขอบคุณข้อมูล cr: mighty-x pantip

 

ลาออกมาได้ 1ปี ครึ่งละ เงินดี ค่าคอมสูงสุด รวมทุกอย่างเช่น คอมมิชชั่น นายหน้าประกัน คือ 8หมื่นต่อเดือน แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกเดือนจะได้ บางเดือน หมื่นห้า บางเดือน 2หมื่น  บางเดือน 3หมื่น  ขายได้ แต่เหนื่อย เหนื่อยตรงที่บลัฟราคาแข่งกัน  

คนประเภท introvert ทำงานเซลล์ทำให้ชีวิตเหนื่อยมากขึ้นด้วยในแต่ละวัน เป็นงานที่ต้องลงทุนกับเสื้อผ้าหน้าผมบ้าง ถึงแม้ปัจจุบันจะย้ายมาขายออนไลน์กันหมดแล้ว

 

ขอบคุณข้อมูล cr: pointofremember pantip

 

ขายรถตามโชว์รูม เงินเดือนไม่เกิน 7000 บางที่ 3000 ยังมี เน้นค่าคอม

เพื่อนเคยทำอยู่ เงินเดือน 3000 ยอด 4 คันต่อเดือน ขายไม่ถึงหักคันละ 1000 

ส่วนค่าคอม แล้วแต่ที่ คิดเป็น % ของราคารถ

ขายไม่ยาก ต้องหาแบรนด์ดีๆ คนวิ่งเข้าหา แค่ไปเชียร์ให้เค้าซื้อเร็วๆแค่นั้น

บางทีไม่ต้องเชียร์ด้วย เค้าตั้งใจมาซื้ออยู่แล้ว

ไม่ได้ค่าคอมเลยเป็นส่วนน้อย ส่วนใหญ่เห็นได้กัน 30k-40k ตลอด โดยเฉลี่ย

 

ขอบคุณข้อมูล cr: hatayo pantip

มาลองวิเคระห์ รูปแบบเดิมๆ ที่ เซลขายรถ ทำในงานมอเตอร์โชว์ มอเตอร์เอ็กซ์โป หรือ ออกบู๊ทตามห้าง

 

1. คิดเสมอว่าลูกค้าทุกคนคือโอกาสการขาย การได้พูดคุยกับลูกค้าที่ไม่ซื้อ อาจเปิดโอกาสให้ลูกค้าคนนั้น แนะนำเพื่อน หรือ ญาติที่ต้องการซื้อรถยนต์อยู่ก็เป็นไปได้

 

2. อย่าจู่โจมลูกค้าจนหน้ากลัว แสดงความเป็นมิตรและพร้อมอยู่ตรงที่ลูกค้ามองหาและต้องการ

 

3. ยิ้มและสังเกตพฤติกรรมของลูกค้าตลอดเวลา 

 

4. พร้อมเสมอที่จะเสนอตัวเข้าช่วยเหลือ ไม่ต้องรอให้ลูกค้าออกปาก มองหาคุณ หรือ เดินเข้ามาหา 

 

5. ขอความร่วมมือจากหัวหน้าหรือเจ้านายในการปิดการขาย เมื่อลูกค้าขอโปรโมชั่นเพิ่ม หรือ ของแถม

 

6. ให้ความสำคัญสูงสุดกับลูกค้าที่นัดมาในงาน 

 

7. แจกโบรชัวร์ หรือ นามบัตรได้ แต่อย่าลืมแจก น้ำใจ ให้ความช่วยเหลือ รอยยิ้มและมิตรภาพ

 

8. ให้ และ ขอ ช่องทางการติดต่อของลูกค้า กับ เซลล์ เพื่อสื่อสารสร้างสัมพันธ์กันในโอกาสต่อไป 

 

ที่นี้เราลองมาดูกันว่า ในสถานการณ์โรคระบาดแบบนี้ รวมถึง เทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างต่อเนื่องทุกวัน พร้อมไปกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป จากการใช้งาน Social Media และ โลกออนไลน์ ที่เข้ามา อยู่ในวิถีชีวิต 

 

 

โดยปกติแล้ว เซลล์ขายรถยนต์ไม่จำเป็นต้องทำโฆษณาหรือทำการตลาดเองมาก่อน แต่ นี่คือสิ่งที่เปลี่ยนไปแล้วตลอดกาล เพราะ ปัจจุบันเซลล์ขายรถคนหนึ่ง จำเป็นต้องเรียนรู้ รวมถึง สามารถใช้ทักษะในเรื่องของ การตลาด การโฆษณา รวมถึง การใช้ช่องทางต่างๆในโลกออนไลน์ และ เทคโนโลยีดิจิทัล มาเพื่อช่วยในการขายของตัวเอง และนี่คือ ความยากลำบากของการทำงานในสายอาชีพเซลล์ในปัจจุบัน

 

แต่เดิม ฝ่ายการตลาดหรือการทำโฆษณา จะส่งมอบกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้กับเซลล์ จากนั้น สิ่งที่เซลล์ขายรถคนหนึ่งต้องทำ คือ ติดต่อกับลูกค้าเป้าหมายเพื่อทำการ ปิดการขาย โน้มน้าวให้ลูกค้าซื้อรถยนต์ให้ได้ ตามที่คาดหวังกันไว้ และ เมื่อรวบรวมทั้งหมดแล้วให้ได้ตามเป้ายอดขายของแต่ละบริษัทหรือศูนย์ได้วางแผนไว้ตั้งแต่ต้น ดูแล้วจะเป็นเรื่องไม่ได้ยุ่งยากมากมาย เพราะ ทักษะในการขาย และ การปิดการขาย รวมถึง การโน้มน้าวจิตใจของลูกค้า นั้นเป็น สิ่งที่เซลล์ต้องทำ ถือเป็นหน้าที่หลักอยู่แล้ว

 

แต่ในปัจจุบัน ทักษะเหล่านี้ก็ยังคงต้องการอยู่อย่างเป็นปกติ และ จำเป็นที่จะต้องเก่งทักษะเหล่านี้ให้มากขึ้นด้วย แต่นอกไปจากนั้น ที่สร้างความเจ็บปวด งุนงง รวมถึง สร้างความเครียดให้กับคนที่ทำงานในตำแหน่งเซลล์ หรือ อาชีพเซลล์ขายรถ ในยุคดิจิทัล นั่นก็ คือ

 

ไม่ว่าจะเป็น เจ้าของแบรนด์ รวมทั้ง เจ้าของศูนย์ และ ดีลเลอร์ ต่างๆ ยังมีความเข้าใจถึงความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคโซเชียลนี้ไม่เพียงพอ จึงทำให้เซลล์ขายรถคนหนึ่งต้องเรียนรู้ทักษะอื่นๆ เพิ่มเติม ในขณะที่รายได้หรือเงินเดือน รวมทั้ง ค่าคอมมิชชั่นที่ได้รับ ก็ไม่ได้เพิ่มเติมมากขึ้นไปจากเดิมแม้แต่น้อย

 

ในยุคนี้ เซลล์ขายรถยนต์ คนนึง ต้องมีทักษะอะไรบ้าง ?

 

เซลต้องรู้ว่าจะต้องนำเสนอสินค้าหรือสื่อสารกับลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ได้ทางไหนบ้าง

 

เซลต้องมีวิธีการใช้ช่องทาง Social Media ในการนำเสนอรูปแบบการขาย โปรโมชั่น รวมถึง สิทธิพิเศษต่างๆ ให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้

 

เซลต้องมีพื้นฐานในการทำโฆษณาแบบดิจิทัล ผ่านเครื่องมือต่างๆบนโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการยิงโฆษณา การซื้อแอด Ads ในช่องทาง Facebook หรือ Social Media อื่นๆ

 

เซลล์จำเป็นจะต้อง สร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น การมีพื้นที่ส่วนตัวใน Social Media หรือ การทำเนื้อหา Content ออกไปในสื่อต่างๆแบบออนไลน์ เช่น การมีแชนแนลยูทูป Youtube channel และการเปิดเพจ facebook page เป็นของตัวเอง

 

เซลต้องรู้ เครื่องมือและเทคนิคทางการตลาดดิจิทัล และ สามารถใช้งานได้ ตัวอย่าง เช่น เครื่องมือในการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายของเฟซบุ๊ก ที่เรียกว่า facebook audience insights หรือ เครื่องมือการดูเทรนด์ผู้บริโภค เช่น Google Trends เป็นต้น

 

เซลล์ต้องสามารถสื่อสารในรูปแบบที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักสนใจ โดยต้องสามารถทำการนำเสนอคอนเทนต์ Content หรือ เนื้อหาในรูปแบบ Content Marketing หรือ สตอรี่เทลลิ่ง Storytelling ได้

 

เซลจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ เนื้อหา เทคโนโลยีใหม่ๆ และแอพพลิเคชั่น Application และ แพลตฟอร์ม platform ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในทุกๆวัน เช่น การใช้ Tiktok 

 

เซลจำเป็นต้องรู้เทคนิคการใช้ influencer Marketing หรือ สามารถสร้างตัวตนให้เป็น influencer ในสายของการขายหรือเซลล์ขายรถได้

 

และ ทักษะอื่นๆอีกมากมาย ที่จำเป็นต่อเซลและพนักงานขายรถในยุคสมัยนี้

 

ทั้งหมดที่ได้กล่าวมานี้ เป็นเพียงองค์ประกอบ บางส่วนที่ เซลล์ขายรถคนหนึ่งในปัจจุบันจำเป็นต้องมีทักษะเหล่านี้ประกอบ เพราะ ไม่อย่างนั้น ก็จะทำให้เสียเปรียบคู่แข่ง รวมถึงไม่สามารถปิดการขายได้เพียงพอกับเป้ายอดขายที่ทางบริษัทหรือศูนย์ได้ตั้งเป้าไว้ ก็จะยิ่งส่งผลให้อาชีพนี้อาจจะไม่เหมาะสมกับคนที่ไม่มีทักษะ หรือ ไม่เข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคนี้

 

Soft-skill ทักษะที่ เซลล์ขายรถยนต์ ที่ดีต้องมีใน ยุคนี้

 

1. จริงใจและเป็นกันเอง สร้างความสนิทสนมกับลูกค้า

ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ สูง ต่ำ ดำ ขาว ร่างกายสมบูรณ์หรือไม่ อย่าตัดสินใคร ด้วยมาตรฐานไหนก็ตาม นี่เป็นเรื่องสำคัญพื้นฐานที่เซลล์ต้องมีในใจ จงดูแลทุกคนเหมือนญาติมิตร ทักทาย เอาใจใส่ ให้บริการ อย่างจริงใจ แสดงความเป็นมืออาชีพแต่เป็นกันเอง ทุกวันนี้เรื่องไม่ดีไปไกลและไปเร็วได้ง่ายด้วยโซเชี่ยลมีเดียและช่องทางออนไลน์เพราะทุกคนเป็นสื่อ ดังนั้น ข้อนี้ เซลตัวจริงต้องยึดปฎิบัติอย่างจริงจังจนเป็นนิสัย

 

2.  พูดคุยสอบถามเพื่อให้ได้ความต้องการที่แท้จริง

คำถามที่ดีสามารถช่วยวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า แถมยังสามารถประเมิณกำลังซื้อของลูกค้าได้ด้วย เช่น ถามเกี่ยวกับการทำงานหรืออาชีพ เรื่องเหล่านี้สามารถนำไปวิเคราะห์ได้หลากหลายอย่าง รวมถึง พฤติกรรมบนโลกออนไลน์ด้วยเช่นการซื้อโฆษณาให้ตรงกลุ่มเป้าหมายอาชีพและการทำงาน เซลจำเป็นต้องเรียนรู้ไว้ และ การถามคำถามช่วยให้รู้วัตถุประสงค์การซื้อรถไปใช้งานจึงสามารถช่วยประเมิณงบประมาณคร่าวๆได้ด้วย

 

3. ขายให้่ตรงอย่าหลงประเด็น

การที่เซลล์ขายรถต้องนำเสนอรถยนต์ ไม่ควรเลือกนำเสนอจากรุ่นที่เราได้ค่าคอมเยอะที่สุด แต่ต้องเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์หรือตรงความต้องการของลูกค้ามากที่สุด ในปัจจุบันลูกค้ามีข้อมูลและเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย บางอย่างกูเกิ้ลหาก็ได้รายละเอียดครบ บางทีลูกค้ารู้มากกว่าเซลด้วยซ้ำ ดังนั้นสิ่งที่เป็นเคล็ดลับและเซลควรทำคือ ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่ารถที่เขากำลังตัดสินใจอยู่ ควรค่าแก่การซื้อ

 

4. สะสมอาวุธ (รู้เรื่องข้อมูลเกี่ยวกับการเงินที่เกี่ยวข้องกับการซื้อให้มากที่สุด)

เมื่อสอบถามเรื่อง ราคา ดอกเบี้ย ค่างวด เงินดาวน์ ส่วนลด นั่นทำให้เห็นโอกาสปิดการขายใกล้เข้ามา ดังนั้นข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ เซลจำเป็นต้องรู้ให้มาก รู้อย่างละเอียด รูปทุกธนาคาร ทุกไฟแนนซ์ได้ยิ่งดี โปรโมชั่นมาอะไรบ้างจำให้หมด เรื่องเหล่านี้เราหาเองก็ได้ในอินเตอร์เน็ตมีข้อมูลให้หมด ดังนั้น สะสมอาวุธไว้ให้ครบมือ

 

5. เทคนิค การปิดการขาย

ข้อนี้คงไม่ต้องเหล่าอะไรกันมากมาย เพราะในเมื่ออยากจะประกอบอาชีพเซลล์ขายรถยนต์ จำเป็นที่สุดที่ต้องเรียนรู้และฝึกฝนทักษะนี้ ปัจจุบันเป็นความโชคดีของคนสายอาชีพนี้เพราะ ปัจจุบันมีคอร์สและหลักสูตรให้เรียนแบบออนไลน์มากมายเต็มไปหมด ทั้ง ฟรี และ เสียเงิน ดังนั้น อย่ารีรอ เรียนรู้และฝึกปฏิบัติ ทำทันที

 

6. ติดตามอย่างมีแบบแผน

เซลล์ขายรถ มืออาชีพ ทุกคนมีทักษะนี้ เมื่อลูกค้าคนหนึ่งหาโอกาสให้ช่องทางการติดต่อกับคุณแล้ว พวกเขาเหล่นั้นมีโอกาสซื้อเสมอ แม้ว่าจะไม่ซื้อทันทีตอนนั้นก็ตาม ปัจจุบันการบันทึกหมายเลขโทรศัพท์ มีโอกาสที่จะทำให้ เชื่อมต่อกันทางไลน์ LINE หรือ เป็นเพื่อนกันทางไลน์ได้อีกด้วย การทักทายเป็นครั้งคราว อวยพรในโอกาสพิเศษ ส่งอัพเดทข่าวสาร ไลน์ช่วยให้ลูกค้าจดจำคุณได้ง่ายกว่าเครื่องมือไหนๆ

 

7. มีบริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

ดราม่าส่วนมากใน Pantip.com ก็เป็นเรื่องของรถยนต์นี่แหละ เซลมืออาชีพตัวจริงต้องเตรียมพร้อมเรื่องเหล่านี้ด้วย ทั้งสาเหตุและการแก้ปัญหา เพราะเมื่อลูกค้าไว้ใจกับการบริการที่คุณหยิบยื่นให้เหมือนญาติมิตร การบอกต่อก็จะสามารถเกิดขึ้นได้ง่าย

 

จากบทความข้างต้นนี้ จะเห็นได้ว่าการประกอบอาชีพ เซลขายรถ เซลล์ขายรถยนต์ ไม่ได้มีทักษะแค่แบบเดิมๆ อีกต่อไป นอกจาก การขาย แล้ว ยังต้องมีเรื่องของ การทำการตลาด ทักษะการสื่อสาร รวมถึง เทคนิคต่างๆใน การทำโฆษณาออนไลน์ ดังนั้น บุคลากรผู้ประกอบอาชีพนี้อยู่ หรือ ผู้กำลังมองหา ต้องการประกอบอาชีพนี้ เพื่อดำรงชีพ จึงจำเป็นต้องเรียนรู้เรื่องราวต่างๆเหล่านี้ และ เตรียมตัวให้พร้อมในทุกมิติ

 

คุณสามารถร่วมแสดงความคิดเห็นในหัวข้อ ” เซลขายรถ เซลล์ขายรถ ต้องฟัง! ห้าม สมัคร ถ้ายังไม่รู้เรื่องนี้ [อัพเดทล่าสุด] ” นี้ได้ง่ายๆด้วยการฝากคอมเม้นต์ไว้ด้านล่างบทความนี้ หรือ ไลน์มาพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ตลอดเวลา เพียงทักไลน์มาที่ @brandingchamp 

 

[Advertorial] สำหรับผู้ต้องการเป็นสุดยอด เซลขายรถ ยุคดิจิทัล แนะนำ หลักสูตร สู่…สุดยอด นัก(ปิดการ) ขายในโลกดิจิทัล Super (Closing) Salesperson in Digital World โดย วิทยากร อาจารย์แชมป์ ธิติพลเทียมจันทร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดดิจิทัล 

หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับ : เซลล์ขายรถ, ดีลเลอร์, พนักงานขาย, ตัวแทนจําหน่าย, เจ้าหน้าที่ฝ่ายขาย

อุปกรณ์ที่ต้องใช้ : มือถือสมาร์ทโฟน+อินเตอร์เน็ต

สิ่งที่คุณจะได้ : เรียนรู้ทั้งด้านการขาย และการตลาดยุคดิจิทัล Digital Marketing
เรียนรู้การปรับตัวในระหว่างเกิดวิกฤตการณ์ รู้จักช่องทางการขายในโลกออนไลน์ใหม่ๆ
ขั้นตอนวิธีที่ถูกต้องในทางปฏิบัติ เพื่อปิดการขาย และ สร้างโอกาสขายได้มากขึ้นโดยใช้เวลาน้อย และได้ผลลัพธ์มากกว่า แม้อยู่ท่ามการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภค ผู้อบรมจะสามารถสร้าง วิธีการหรือรูปแบบ ที่ทำให้ลูกค้าเข้ามาหาเอง สร้างยอดขายเพิ่มขึ้นง่ายกว่าเดิม สามารถเริ่มต้นทำการตลาดออนไลน์ ใช้ช่องทางออนไลน์
สร้างโอกาสในการปิดการขายให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
เพื่อ ก้าว สู่…สุดยอด นัก(ปิดการ)ขายในโลกดิจิทัล

 

[*** เฉพาะองค์กร หน่วยงาน หรือ บริษัท เท่านั้น ไม่มีหลักสูตรรายบุคคล]

สนใจ หลักสูตรสำหรับ เซลขายรถ เซลล์ขายรถ ติดต่อไลน์ @brandingchamp หรือ โทร. 0631979894 หรือ 0902393987

 

บรรยากาศ ตัวอย่าง การอบรมทีมขาย พนักงานขาย เซลขายรถ เซลล์ขายรถ ของ ทั้ง TOYOTA และ ISUZU