Individual Marketing คือ อะไร นำมาใช้อย่างไรในยุคดิจิทัล [ มี ตัวอย่าง ]

Individual Marketing คือ

Individual Marketing คือ อะไร ถ้าจะทำความเข้าใจเรื่องนี้ต้องเริ่มจาก ในโลกดิจิทัลยุคปัจจุบัน ผู้บริโภคมีทางเลือกมากมายเพียงปลายนิ้วสัมผัส การแข่งขันเพื่อแย่งชิงความสนใจจากลูกค้าจึงทวีความเข้มข้นขึ้นทุกขณะ ท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ หลายธุรกิจจึงหันมาใช้กลยุทธ์ “Individual Marketing” หรือการตลาดแบบเจาะจงเฉพาะบุคคล เพื่อสร้างประสบการณ์ที่โดนใจให้กับลูกค้าแต่ละราย

Individual Marketing เป็นวิวัฒนาการของการตลาดที่มุ่งตอบสนองความต้องการเฉพาะตัวของลูกค้าแต่ละบุคคล ด้วยการนำข้อมูลพฤติกรรมและความชอบส่วนบุคคลมาวิเคราะห์ เพื่อนำเสนอสินค้า บริการ และสารที่ตรงใจลูกค้ามากที่สุด เป็นการสร้างประสบการณ์ที่เหนือกว่า ใกล้ชิดและเป็นส่วนตัวมากขึ้น เมื่อเทียบกับการตลาดแบบดั้งเดิมที่เน้นการสื่อสารทางเดียวไปยังมวลชน

แต่ Individual Marketing คือ อะไรกันแน่? มีความแตกต่างจากการตลาดแบบเดิมอย่างไร? และเราจะนำมาประยุกต์ใช้ในธุรกิจได้อย่างไรบ้าง? บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Individual Marketing และศึกษาตัวอย่างการนำไปใช้จากแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก เพื่อเป็นแนวทางในการปรับใช้กับธุรกิจของคุณ ให้สามารถใกล้ชิดและเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นบนโลกดิจิทัล

Individual Marketing คือ อะไร ?

Individual Marketing คือ การทำการตลาดแบบเฉพาะเจาะจงโดยอิงตามลักษณะ พฤติกรรม และ ความชอบ “ส่วนบุคคล” ของผู้บริโภคแต่ละราย โดยอาศัยข้อมูลพฤติกรรมของผู้บริโภค (consumer data) มาวิเคราะห์เพื่อทำความเข้าใจความต้องการเฉพาะบุคคล และนำเสนอสินค้าหรือบริการที่ตอบโจทย์ได้ตรงจุด

Individual Marketing มีความเชื่อมโยงกับแนวคิด ” การแบ่งส่วนตลาด 4 ระดับ “ (Four Levels of Market Segmentation)

ซึ่งประกอบด้วย

1. Mass Marketing คือ การตลาดแบบมวลชน ใช้ผลิตภัณฑ์เดียวกันกับตลาดทั้งหมด
2. Segmented Marketing คือ การตลาดตามส่วนแบ่งตลาด แบ่งกลุ่มลูกค้าตามลักษณะที่คล้ายกัน
3. Niche Marketing คือ การตลาดเฉพาะกลุ่ม มุ่งเน้นตอบสนองความต้องการของกลุ่มย่อยเฉพาะ
4. Micromarketing / Individual Marketing คือ การตลาดส่วนบุคคล ปรับแต่งสินค้าและบริการให้เหมาะกับแต่ละบุคคล

Individual Marketing จึงเป็นระดับสูงสุดของการแบ่งส่วนตลาด ที่เจาะลึกลงไปถึงระดับปัจเจกบุคคล เพื่อสร้างประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้กับลูกค้าแต่ละราย

 

ตัวอย่างการใช้ Individual Marketing ของแบรนด์ชั้นนำ

Individual Marketing หรือ การตลาดแบบเฉพาะบุคคล เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่มุ่งเน้นไปที่ การเข้าถึงลูกค้าแต่ละคน โดยใช้ข้อมูลเกี่ยวกับความสนใจ พฤติกรรม และความชอบของพวกเขา เพื่อนำเสนอ ข้อความ สินค้า และบริการ ที่ตรงกับความต้องการของพวกเขา ข้อดี ของ Individual Marketing มีมากมาย เช่น เพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้า สร้างความภักดี และ เพิ่มยอดขาย

ดังนั้น แบรนด์ชั้นนำ หลายแห่งจึง ประสบความสำเร็จกับ การใช้ Individual Marketing มาดูตัวอย่างกัน

1. Amazon 
กลยุทธ์: แนะนำสินค้าที่คุณอาจสนใจจากประวัติการซื้อของคุณ
วิธีการ: Amazon วิเคราะห์ประวัติการซื้อของคุณ เพื่อดูว่าคุณเคยซื้ออะไรบ้าง จากนั้นจึงใช้ข้อมูลนี้เพื่อแนะนำสินค้าที่คุณอาจชอบ ตัวอย่างเช่น หากคุณเคยซื้อหนังสือเกี่ยวกับการทำอาหาร Amazon อาจแนะนำอุปกรณ์ทำอาหารให้คุณ
ผลลัพธ์: กลยุทธ์นี้ช่วยให้ Amazon เพิ่มยอดขายและสร้างความภักดีของลูกค้า

 

2. Netflix
กลยุทธ์: แนะนำรายการที่ตรงกับรสนิยมของคุณ
วิธีการ: Netflix วิเคราะห์ประวัติการดูของคุณ เพื่อดูว่าคุณเคยดูรายการอะไรบ้าง จากนั้นจึงใช้ข้อมูลนี้เพื่อแนะนำรายการที่คุณอาจชอบ ตัวอย่างเช่น หากคุณเคยดูรายการเกี่ยวกับอาชญากรรม Netflix อาจแนะนำรายการเกี่ยวกับอาชญากรรมอื่นๆ ให้คุณ
ผลลัพธ์: กลยุทธ์นี้ช่วยให้ Netflix ดึงดูดลูกค้าใหม่และรักษาฐานลูกค้าปัจจุบันไว้

 

3. Starbucks
กลยุทธ์: ส่งคูปองเครื่องดื่มที่คุณชื่นชอบ
วิธีการ: Starbucks รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการสั่งซื้อของคุณ เช่น เครื่องดื่มประเภทใดที่คุณสั่งซื้อ และบ่อยแค่ไหน จากนั้นจึงใช้ข้อมูลนี้เพื่อส่งคูปองสำหรับเครื่องดื่มที่คุณชื่นชอบ ตัวอย่างเช่น หากคุณมักจะสั่งลาเต้ Starbucks อาจส่งคูปองสำหรับลาเต้ให้คุณ
ผลลัพธ์: กลยุทธ์นี้ช่วยให้ Starbucks เพิ่มยอดขายและสร้างความภักดีของลูกค้า

 

ทำไม Individual Marketing จึงสำคัญในยุคดิจิทัล?

ในยุคดิจิทัลที่ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากมาย การทำการตลาดแบบ Mass Marketing หรือ Segmented Marketing อาจไม่เพียงพออีกต่อไป ผู้บริโภคคาดหวังประสบการณ์ที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น ธุรกิจจึงต้องปรับตัวสู่ Individual Marketing เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

 

ประโยชน์หลักของการทำ Individual Marketing

1. เพิ่มอัตราการตอบสนอง (Response Rate)
2. สร้างความภักดีต่อแบรนด์ (Brand Loyalty)
3. เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า (Customer Satisfaction)
4. เพิ่มยอดขายและผลกำไร (Sales and Profit)

ขั้นตอนการทำ Individual Marketing

1. เก็บและวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมลูกค้า (Collect and Analyze Customer Data)

การทำความเข้าใจลูกค้าแต่ละรายอย่างลึกซึ้งจากข้อมูลพฤติกรรมต่างๆ เช่น ประวัติการซื้อ การใช้งานเว็บไซต์/แอป ข้อมูลเชิงประชากร ความสนใจ เป็นต้น

2. ทำ Micro-Segmentation (แบ่งกลุ่มย่อยตามคุณลักษณะ)

นำข้อมูลมาแบ่งกลุ่มลูกค้าออกเป็นกลุ่มย่อย (micro-segment) ตามคุณลักษณะ พฤติกรรมที่มีร่วมกัน เพื่อให้สามารถออกแบบสารและสร้างประสบการณ์ที่เข้าถึงแต่ละบุคคลได้ดียิ่งขึ้น

3. พัฒนาเนื้อหาและข้อเสนอให้ตรงกับแต่ละกลุ่มย่อย

สร้างสรรค์เนื้อหา ข้อความโฆษณา โปรโมชั่น และข้อเสนอพิเศษที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของแต่ละกลุ่มย่อย/บุคคล ใช้การปรับแต่ง (personalization) ให้รู้สึกว่าสื่อสารมาเพื่อตัวเขาโดยเฉพาะ

4. เลือกช่องทางสื่อสารและส่งมอบประสบการณ์ส่วนบุคคล

นำเสนอเนื้อหา ข้อความ และข้อเสนอผ่านช่องทางการสื่อสารที่เหมาะสมที่สุดกับแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะเป็นอีเมล SMS โซเชียลมีเดีย แอป ฯลฯ เพื่อให้เข้าถึงได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ใช้เทคโนโลยี personalization เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวเฉพาะบุคคล

 

ตลาดเป้าหมาย Target Market คือ อะไร และ เกี่ยวข้องกับ Individual Marketing อย่างไร

ตลาดเป้าหมาย  คือ การที่มุ่งเน้นทำการตลาดกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง แทนที่จะทำการตลาดกับคนทั้งตลาด โดยอาศัยการวิเคราะห์และทำความเข้าใจพฤติกรรม ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้ง เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการที่ตรงใจ สร้างความพึงพอใจสูงสุด

ประโยชน์ของการทำการตลาดเป้าหมาย

เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีแนวโน้มซื้อสูง เพิ่มอัตราการตอบสนอง (response rate)
ใช้ทรัพยากรการตลาดได้อย่างคุ้มค่า เมื่อเทียบกับการทำตลาดแบบวงกว้าง
สามารถปรับแต่งส่วนผสมทางการตลาด (marketing mix) ให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย
สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน โดยการเจาะตลาดเฉพาะกลุ่มได้ดีกว่าคู่แข่ง

Target Market เกี่ยวข้องกับ Individual Marketing อย่างไร?

Target Market และ Individual Marketing มีความเชื่อมโยงและสัมพันธ์กัน โดย Individual Marketing ถือเป็นรูปแบบหนึ่งของ Target Market ในระดับที่ลึกและแคบที่สุด

ความเหมือนระหว่าง Target Market และ Individual Marketing

มุ่งเน้นการตลาดกับกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง ไม่ใช้วิธีการตลาดแบบวงกว้าง
อาศัยการวิเคราะห์และทำความเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าอย่างลึกซึ้ง
ปรับแต่งส่วนประสมทางการตลาดให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย

ความแตกต่างระหว่าง Target Market และ Individual Marketing

Target Market แบ่งกลุ่มเป้าหมายออกเป็นกลุ่มย่อยตามลักษณะที่คล้ายกัน เช่น เพศ อายุ รายได้ ความสนใจ ฯลฯ ส่วน Individual Marketing มุ่งเน้นเข้าถึงลูกค้าเป็นรายบุคคลเลย

Target Market สร้างสารและข้อเสนอให้เหมาะกับแต่ละกลุ่มเป้าหมาย แต่ Individual Marketing ปรับแต่งเนื้อหาให้เหมาะกับแต่ละบุคคล

Target Market ยังคงสื่อสารทางการตลาดเป็นกลุ่ม ในขณะที่ Individual Marketing สื่อสารกับลูกค้าแบบตัวต่อตัว ผ่านช่องทางส่วนบุคคล

ดังนั้น Individual Marketing จึงเป็นการทำ Target Market ที่ลงลึกถึงระดับปัจเจกบุคคล เพื่อให้การทำการตลาดมีประสิทธิภาพและสร้างความพึงพอใจสูงสุด นับเป็นกลยุทธ์ขั้นสูงที่เหมาะสำหรับยุคดิจิทัลที่มีข้อมูลและเทคโนโลยีรองรับอย่างมากมายนั่นเอง

 

โดยสรุป Individual Marketing คือ กลยุทธ์การตลาดระดับสูงสุดที่เน้นทำความเข้าใจและตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคลของลูกค้าแต่ละราย ธุรกิจยุคดิจิทัลที่ปรับใช้ Individual Marketing อย่างมีประสิทธิภาพ จะสามารถสร้างประสบการณ์ที่โดดเด่น เหนือคู่แข่ง และครองใจลูกค้าได้ในระยะยาว 

คุณสามารถร่วมแสดงความคิดเห็นกับบทความ ” Individual Marketing คือ อะไร นำมาใช้อย่างไรในยุคดิจิทัล [ มี ตัวอย่าง ] ” นี้ ได้ด้วยการคอมเม้นต์ด้านล่างนี้ หรือ ทักไลน์มาคุยกันได้ที่ @brandingchamp