เทคนิคการขาย มีอะไรบ้าง? ก้าวสู่สุดยอดนักขาย (รวมครบและอัพเดทล่าสุด)
เทคนิคการขาย มีอะไรบ้าง? แค่ “สามเก้า” ก็เข้าสู่สุดยอดนักขายได้ (รวมครบและอัพเดทล่าสุด)
เทคนิคการขาย
เทคนิคการขาย ในปัจจุบัน ไม่ได้ เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม มากนักแต่ที่สำคัญก็คือ มันเพิ่มมากขึ้นเพราะมีเรื่องของเทคโนโลยีดิจิตอลและช่องทางออนไลน์ที่มาเปิดโอกาสให้นักขาย ได้ใช้เทคนิคการขายต่างๆเพื่อเหมาะสมกับลูกค้าของตนเองให้มากที่สุดเพิ่มโอกาสในการปิดการขาย ให้ได้มากที่สุด เช่นกัน
เทคนิคการขาย คือ การที่นักขายหรือพนักงานขายใช้ความสามารถบนพื้นฐาน ความรู้ ความชำนาญ และประสบการณ์ ที่ได้สั่งสมมา ในการโน้มน้าวจูงใจลูกค้าผู้มุ่งหวังให้ตัดสินใจซื้อหรือรับข้อเสนอ ในทุกๆโอกาสทางการค้าใดๆที่เกิดขึ้นกับพวกเขา
เมื่อเข้าใจถึงความหมายแล้ว เราจะมาเรียนรู้ เทคนิคการขาย 39 เทคนิค ที่สามารถนำไปใช้ ได้กับการขายทั้งในรูปแบบขายของออนไลน์หรือใช้ช่องทางออนไลน์เพื่อเปิดโอกาสการขาย รวมทั้งเทคนิคการขายแบบดั้งเดิม และแบบประยุกต์ ที่ใช้อยู่ ในปัจจุบันในช่องทางปกติหรือที่เรียกว่าออฟไลน์นั่นเอง ถ้าพร้อมแล้ว ก็มาดูเทคนิคต่างๆในการขายเหล่านี้กันได้เลย
1.เทคนิคการจำไว้ว่าโอกาสการขายเกิดได้ตลอดเวลา
คุณในฐานะนักขาย ต้องรู้ว่า ในแต่ละครั้งของโอกาส ห้ามคิดตัดสินประเมินลูกค้าไปเอง เช่น ดูจากการแต่งกาย จากการพูดคุย อย่าตัดสินว่า เขาไม่ซื้อหรอก นักขายที่ดีต้องฝึกไว้ว่า อย่าไปตัดสินลูกค้าว่า เขาดี หรือ ไม่ดีอย่างไร ว่า เขาจะซื้อ หรือ ไม่ซื้อ ฝึกว่าทุกครั้งที่เจอลูกค้า มันคือโอกาสของยอดขายที่จะเพิ่มขึ้น
ในบางครั้ง เขาอาจจะไม่ได้ตัดสินใจซื้อตอนนี้ แต่เขาก็อาจจะเอาไปแนะนำเพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง ให้มาซื้อก็ได้ หรือเมื่อถึงเวลาที่เขาพร้อมจะซื้อเมื่อไหร่ ก็เป็นไปได้ ที่เขาจะกลับมาหาคุณอีกครั้ง หากเขาเข้ามาพูดคุยกับคุณแล้วเกิดประสบการณ์ดีดี ได้รับบริการที่ดีจากคุณ เขาก็อาจจะไปบอกต่อ แนะนำ ชื่นชม ให้ผู้อื่นฟัง ทั้งบนโลกออนไลน์ หรือ แบบปากต่อปากก็ได้
2. เทคนิควางแผนการขายด้วยคอนเทนต์ออนไลน์ในทุกๆวัน
การวางแผนการขาย ผ่านคอนเทนต์ที่จะนำเสนอ หรือ โพสต์ในแต่ละวัน เมื่อคุณ ขายของออนไลน์ ไม่ว่าจะทำเพื่อ หารายได้เสริม หรือ ทำเป็นอาชีพหลักแบบเต็มตัว ถ้าอยากขายของให้ประสบความสำเร็จ คุณจำเป็นต้องมีวินัย ในการนำเสนอเนื้อหาคอนเทนต์ การจัดตารางการโพสทุกๆวัน ทำให้เป็นเวลาสม่ำเสมอ ตรงกับเวลาที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าของคุณ ยิ่งจะทำให้คอนเทนต์ของคุณ มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
เทคนิค คือ การจัดตารางการทำคอนเทนต์และโพสรายวัน จะยิ่งทำให้วินัยการนำเสนอและการขายสินค้าในช่องทางออนไลน์ของคุณดีขึ้น และจะยิ่งช่วยให้คุณวางแผนการขายในช่วงเทศกาล หรือ อีเว้นท์ต่างๆ ได้ไม่พลาด ทำแบบนี้จะทำให้ การขายของออนไลน์ ของคุณกลายเป็นเรื่องสนุก
3. เทคนิคการรู้ข้อมูลลูกค้าล่วงหน้าก่อนการขาย
สำหรับ ธุรกิจใหม่ๆ หากต้องการขายให้ได้ดีๆ คุณจำเป็นต้องสร้างฐานลูกค้าของตน สะสมไว้ให้ได้ซะก่อน คุณต้องเข้าใจให้ได้ก่อนว่า สินค้าของคุณ เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายแบบไหน และ ทำการตลาดเจาะไปที่กลุ่มๆนั้น และที่สำคัญที่สุด คือ ถ้าคุณสามารถรู้ข้อมูลของลูกค้าล่วงหน้า จะยิ่งทำให้ขายได้ง่ายขึ้น
ตัวอย่าง เช่น น้ำยาบ้วนปาก กลุ่มเป้าหมาย น่าจะเป็น คนวัยทำงาน นักเรียน ซึ่งถ้าคุณรู้ข้อมูลล่วงหน้า ว่า วันนี้จะมีงานอีเว้นท์ของคนกลุ่มนี้ คุณอาจไปออกบูธขายสินค้าในบริเวณนั้น ซึ่งนั่นก็อาจจะทำให้คนกลุ่มนี้ หันมาสนใจผลิตภัณฑ์ของคุณได้ง่ายขึ้น นี่ก็เป็นเทคนิคการขายหนึ่ง ที่ใช้ได้ดี และ สามารถสร้างลูกค้าใหม่ๆ ได้มากขึ้น
4. เทคนิคสร้างมนุษย์สัมพันธ์คือสิ่งสำคัญของนักขาย
นักขายที่ดี เวลาที่ต้องออกไปหาลูกค้า ก็ควรจะถือของฝากจากบริษัท หรือ ขนมติดไม้ติดมือไปด้วย เพื่อสร้างความประทับใจ ปฏิเสธไม่ได้ว่า ส่วนใหญ่แล้ว คนจะชอบของฟรี ดังนั้นถ้าคุณเข้าไปหาลูกค้าด้วยของฝากเล็กๆน้อยๆ ก็จะยิ่งเป็นการสร้างโอกาสที่ดี
แต่ ก็ควรดูโอกาส และ ความเหมาะสมด้วย เพราะถ้าหาก เป็นการนำของ สมนาคุณ หรือของมีค่าใดๆก็ตาม ไปฝากผู้มีอำนาจ ในการตัดสินใจซื้อ โดยที่คุณหวังว่าจะให้เขามาซื้อสินค้าของคุณ ในลักษณะนี้อาจจะถูกเรียกว่าการติดสินบนเอาง่ายๆก็ได้
5. เทคนิคขายของที่แตกต่างและตลาดกำลังสนใจ
ในเรื่องของการค้าขาย ผู้ที่สามารถเข้ามาเปิดตลาดได้ก่อน (First Mover) หรือ เป็นผู้ที่สามารถนำสินค้าใหม่ๆ เข้ามาขายได้เป็นเจ้าแรก ก็ถือว่ามีโอกาสประสบความสำเร็จสูง แต่ทั้งนี้การเลือกสินค้าใหม่หรือสินค้าที่แตกต่างจากที่มีขายในตลาดนั้น ต้องมั่นใจให้ได้ซะก่อนว่า สินค้าชิ้นนี้เป็นที่ต้องการในตลาดหรือไม่ มีคนต้องการหรือรอซื้อสินค้าอยู่เป็นจำนวนมากน้อยเพียงใด
ซึ่งถ้าหากสินค้าที่จะนำมาขายนั้น ดูมีโอกาสที่จะส่งผลต่อยอดขายที่ดีในอนาคต การใช้ เทคนิคการขาย สินค้าที่แตกต่างจากที่มีอยู่ในตลาด จะสามารถสร้างกำไรที่งดงามให้กับนักขายแย่างคุณได้ รวมทั้ง มันก็จะยิ่งส่งผลดีให้กับธุรกิจของคุณได้เป็นอย่างดี
6. เทคนิคจะขายได้ง่ายถ้ารู้ว่า “ควร” ขายจุดไหน
นักขายขั้นเทพ ต้องรู้ “จุดขาย” เข้าใจประโยชน์และคุณสมบัติของสินค้าอย่างขึ้นใจ และ ต้องสามารถเปรียบเทียบ จุดเด่น-จุดด้อย ระหว่างสินค้าของคุณกับคู่แข่งได้ ข้อมูลเหล่านี้ จะช่วยให้คุณสามารถตอบคำถามลูกค้า รวมทั้ง นำเสนอสินค้าได้อย่างตรงเป้าเข้าประเด็น
สิ่งที่ลูกค้าคาดหวัง ไม่ใช่ตัวที่สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ แต่เขาจะซื้อสินค้านั้นด้วยอารมณ์ โดยดูจากประโยชน์ที่เขาจะได้รับจากมันต่างหาก และประโยชน์นั้น ต้องตอบโจทย์ความต้องการ หรือ ช่วยแก้ปัญหา (Painpoint) ที่น่าลำคาญให้กับเขาได้
7. เทคนิคการขายด้วยเฟสบุ๊กเพจที่มีความสม่ำเสมอ
เปิดเฟสบุ๊กเพจทุกคนที่เป็น นักขายออนไลน์ น่าจะเข้าใจและมีกันอยู่แล้ว แต่ที่สำคัญกว่า คุณควรกระตุ้นให้ลูกค้าหรือแฟนเพจ มีส่วนร่วมกับโพสหรือกิจกรรมของเพจอยู่เสมอๆ
การกระตุ้นให้ลูกค้ามีส่วนร่วม กับ กิจกรรมต่างๆ บนเพจเฟสบุ๊ก ของคุณ เช่น การประกวดรีวิว จะสามารถช่วยสร้างฐานแฟนเพจและผู้ติดตามเพจให้กับคุณ และ สามารถช่วยเรื่องการตัดสินใจซื้อ ง่ายขึ้นได้อีกด้วย ยิ่งลูกค้าของคุณ คุ้นเคย กับ เพจเฟสบุ๊ก หรือ แบรนด์ของคุณ มากเท่าไหร่ เขาก็จะสามารถตัดสินใจซื้อของของคุณ ได้ง่ายขึ้นตามไปด้วย
8. เทคนิคทำให้ทุกๆการนำเสนอ น่าประทับใจ
เทคนิคการนำเสนอเพื่อเข้าสู่การขายของคุณ คุณจะต้องสามารถทำให้มัน จับใจผู้ฟัง ให้ผู้ฟังหรือลูกค้าเกิดความสนใจในสินค้าหรือบริการนั้น
โดยเทคนิคการนำเสนอเพื่อการขายที่ดี เริ่มต้นตั้งแต่ 15 วินาทีแรก คุณจะต้องสามารถทำให้มัน น่าประทับใจต่อผู้ฟังหรือลูกค้า สบตา ดู สังเกต ปฏิกิริยาต่างๆของพวกเขา ถ้าดูแล้ว เขามีท่าที่ไม่สนใจ จงเปลี่ยน วิธีที่นำเสนอ อยู่นั้นในทันที เช่น เปลี่ยนเป็นการตั้งคำถามเกี่ยวกับความต้องการ ถามปัญหาของลูกค้า เพื่อที่คุณจะได้นำเสนอสิ่งที่ดีที่สุด และ ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด
9. เทคนิคทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
เทคนิคนี้ ถือเป็น เทคนิคขั้นเทพ ไม่ต้องใช้ความพยายามในการขายมากนัก เหนื่อยน้อย แต่ต้องรู้ เทคนิค การนำเสนอให้ลูกค้า เลือกตอบคำถาม ด้วยตัวของเขาเอง
เช่น “รุ่นนี้ของเรามีสีเขียว สีแดง และสีแดงขายดีมากๆ สนใจเป็นสีดีไหนคะ?”
“ของเราไซด์คนไทย มีให้เลือก SS S M L XL XXL เอาเป็นไซด์ไหนดีคะ?”
หรือ “ชิ้นเดียวจะราคาสูงกว่านิดนึง ถ้าราคาส่ง 3 ชิ้นจะถูกกว่า ต้องการราคาส่งมั้ยคะ?”
ถ้าการนำเสนอมีทางเลือกให้ชัดเจน มีโอกาสสูงที่จะปิดการขายได้เพราะลูกค้าหรือผู้ฟังจะ ลืมไปว่าพวกเขามีอีกทางเลือกคือการปฎิเสธ ที่ไม่มีอยู่ในคำถามที่คุณหยิบยื่นให้เลย ให้ลูกค้ามีเวลาคิดน้อยๆ มีเวลาตัดสินใจสั้นๆ ซึ่งหลายคนก็อาจจะเคยซื้อแบบไม่รู้ตัวมาแล้วเหมือนกัน
10. เทคนิคขายการที่ดีต้องมีการกลั่นกรองลูกค้าก่อน (Pre-qualified)
การกลั้นกรองลูกค้าก่อน ที่ภาษาอังกฤษ เรียกว่า Pre-qualified คือ การหาลูกค้าโดย การรวบรวมข้อมูลจาก สมุดรายชื่อต่างๆ งานแสดงสินค้า สมาคมการค้า สะสมฐานลูกค้าจากช่องทางออนไลน์ และอื่นๆ
เพื่อนำมาพิจารณา วิเคราะห์ข้อมูล หารายชื่อผู้ที่ “น่าจะสนใจ” ในตัวสินค้า และมีโอกาสและความเป็นไปได้ที่จะซื้อสินค้า ลูกค้าเก่า หรือ คนที่รู้จักสินค้าของคุณด้วยการที่มีคนแนะนำมา
จากนั้นก็ดำเนินการในส่วนขั้นตอนเพื่อปิดการขาย โดยวิธี ติดต่อทางโทรศัพท์ จดหมาย อีเมล หรือ ทักไปทางอินบ๊อกซ์ แชท หรือ ไลน์ เพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้น และ นัดพบเจอลูกค้าในโอกาสต่อๆไป
11. เทคนิคนักขายชั้นนำต้องซ้อมทำซ้ำทุกๆวัน
ถ้าอยากเป็น สุดยอดนักขาย ที่นำเสนอสินค้าเก่งๆ อย่างแรก คือ ต้องศึกษาจากคนที่นำเสนอเก่งๆ แล้วพยายามนำมาปรับใช้กับตัวเอง ขั้นที่สำคัญที่สุด คือ ซ้อม ซ้อม แล้วก็ ซ้อม ไม่ว่าจะเป็น ตอนอาบน้ำในห้องน้ำ หรือ ตอนที่กำลังเดินทางอยู่บนรถไฟฟ้าระหว่างกลับบ้าน ซ้อมพูดในลำคอโดยออกเสียงพึมพำ แนะนำให้อัดเสียงไว้ด้วยจะดีมากเพราะคุณจะสามารถเรียนรู้และปรับปรุงแก้ไขได้เอง ต้องจำและจับใจความสิ่งที่ต้องการพูดให้ได้อย่างแม่นยำ และ พัฒนาลักษณะการพูดเพื่อขายของตัวเองอยู่เสมอ
การแสดงท่าทางจริงใจ (Good Body-language) แสดงความมุ่งมั่น สร้างความประทับใจให้ลูกค้า เหล่านี้จำเป็นต้องอาศัย การฝึกฝน ทำซ้ำๆ จนเกิดความเคยชิน รับรองว่ามันจะส่งผลที่สุดยอดกับยอดขายด้วยแน่นอน
12. เทคนิคการขายแบบการรับการตอบสนอง (Responsive Selling)
เป็น เทคนิคจากการที่ ลูกค้า “ขอ” ให้ทำ หรือ แม้แต่ “การค้าน” โดยการทำในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ เหมือนเป็นการผูกมัดข้อเสนอนั้น เพื่อให้ไปต่อได้ ซึ่งนักขายเก่งๆ ส่วนใหญ่จะใช้กัน และ ถ้าอยากให้มีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้น คุณต้องศึกษาลูกค้าก่อน ทำการบ้านมาก่อนเป็นอย่างดี เพื่อให้เข้าใจลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น ตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น เช่น ประโยคปิดการขายแบบ “ตอบสนอง”
ลูกค้า: จะได้ของวันไหนคะ ถ้าโอนเงินตอนนี้?
เป้าหมาย: ถ้าโอนเลยตอนนี้ เคอรี่ส่งของถึงหน้าบ้านไม่เกิน 4 โมงเย็นค่ะ
จากตัวอย่าง คุณจะเห็นว่าถ้าคุณต้องการขายให้ได้ คุณต้องตอบสนองให้ตรงเป้ากับสิ่งที่ลูกค้าต้องการเพราะ ที่ลูกค้าถาม คือ สิ่งที่เขามักจะกังวลที่สุด ถ้าคุณสามารถแก้ไขหรือสลายความกังวลนั้นได้ โอกาสปิดการขายคุณก็จะเพิ่มขึ้นแน่นอน
13. เทคนิคการขายแบบที่ปรึกษา ไม่ใช่ เซลล์ธรรมดาทั่วๆไป
ทัศนคติเกี่ยวกับการขาย คือ คุณต้องตั้งมั่น ว่า “ฉันจะไม่ใช่เซลล์ธรรมดาทั่วๆไป” การเป็นพวก นักตื๊อ คนโกหก ขี้โม้ คุณจะไม่ทำพฤติกรรมแบบนี้เป็นอันขาด ถ้าสำรวจตนเองแล้วยังพบว่ามีพฤติกรรมแบบนี้ คุณต้องตัดมันออกไปให้หมด เลิกเป็นเซลล์แบบเดิมๆที่ล้มเหลวเสียที เปลี่ยนความคิดเสียใหม่
ทัศนคติของสุดยอดนักขาย คือ การเปลี่ยนความคิดว่าคุณเป็น เซลล์ธรรมดาๆ เป็น “ที่ปรึกษา” สำหรับลูกค้าให้ได้ ฝึกเปลี่ยนความคิดจากการเข้าหาลูกค้าเพื่อขาย ขาย ขาย เอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองอย่างเดียว ให้มองตัวคุณเองเป็น ที่ปรึกษา ที่สามารถช่วยลูกค้าแก้ปัญหาของเขาได้ เสนอทางเลือกทีดีกว่า ให้คำแนะนำที่น่าเชื่อถือ และให้ลูกค้าเป็นผู้ตัดสินใจเอง แล้วคุณจะได้รับความไว้วางใจในระยะยาว น่าเชื่อถือสูง เป็นนักขายที่ลูกค้าสามารถฝากความหวังไว้ได้
14. เทคนิคการทำให้ลูกค้านึกภาพตามได้อย่างชัดเจน
เคยสังเกตมั้ย โฆษณาบางตัว สมัยนี้ แทบจะไม่ได้พูดถึงตัวสินค้าแต่กลับทำให้คนจดจำได้ดีกว่า นั่นเป็นเพราะ การสร้างจินตนาการให้ลูกค้ามองเห็นภาพตามไปในหัว เป็นสิ่งที่จำเป็นเพราะถ้าลูกค้าจดจำได้ เมื่อเขาต้องการสินค้า เค้าก็จะนึกถึงคุณก่อนเป็นอันดับแรก
ตัวอย่างเช่น น้ำอัดลมไม่ว่าจะเป็น โค้ก เป๊บซี่ สิ่งที่นำเสนอ คือ ความสนุกสนาน สีสันในการดื่มน้ำอัดลม กับแคมเปญสนุกๆ เพื่อชวนให้คนจดจำ เมื่อถึงเวลาที่คุณอยากดื่มน้ำแก้กระหาย เพิ่มความสดชื่น คุณก็มักจะหยิบเอา โค้กหรือเป๊บซี่ ก่อนเลย ซึ่งบางทีหยิบตามสัญชาติญาณแบบเไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ นั่นก็เพราะการฝังภาพในจินตนาการ ภาพจำในหัว ได้เกิดขึ้นแล้ว แน่นอนว่าแบรนด์ที่จะใช้ เทคนิคการขายลักษณะนี้ ต้องมีระยะเวลาในการทำธุรกิจมาอย่างยาวนาน สำหรับแบรนด์ใหม่ๆ อาจจะต้องใช้เรื่องความถี่ในการพบเห็นมากขึ้นซึ่งก็จะทำให้มีต้นทุนสูงตามไปด้วย
15. เทคนิคการขาย ใช้ Marketplace ทุ่นแรง
การขายสินค้าในโลกออนไลน์ Marketplace เป็นอีกหนึ่งช่องทาง ที่สามารถช่วยให้คุณขายสินค้าได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Lazada Shopee JD Central หรือ ถ้าเป็น ฝั่งของสินค้าแฟชั่น เสื้อผ้า ก็ Looksi ร้านพวกนี้เปิด 24 ชั่วโมง ตลอด 7 วัน พูดง่ายๆก็คือเปิดรับลูกค้าตลอดเวลานั่นเอง
คุณสามารถสมัครเป็นผู้ขายและลงขายสินค้าได้ง่ายๆ แต่ควรตระหนักไว้ คือ Marketplace เหล่านี้ไม่คนขายสินค้าในลักษณะคล้ายๆกันหรือเหมือนกันอยู่แล้วมากมาย แต่ในขณะเดียวกันก็มีลูกค้านักช้อปอยู่บนเพลตฟอร์มไม่น้อยทีเดียว ในฐานะนักขายที่ดีคุณต้องเรียนรู้ให้ได้ว่าต้องทำอย่างไรให้เกิดยอดขายจากช่องทางนี้ เพื่อมันจะสามารถช่วยคุณทุนแรงในการขายได้ในระยะยาว
16. เทคนิคแสดงให้เห็นความคุ้มค่าเหนืออื่นใด
การ ลด แลก แจก แถม ยังคงเป็น เทคนิคยอดฮิต ที่ยังใช้ได้ผลในทุกธุรกิจเสมอมา ยิ่งในปัจจุบัน ที่มีค่าครองชีพสูง การใช้จ่ายแต่ละครั้ง ผู้ซื้อย่อมเน้นหนักไปที่ความคุ้มค่าเป็นหลัก ดังนั้น ในฐานะนักขายที่ดี คุณควรจะเข้าใจในเรื่องนี้
จากงานวิจัย เรื่อง Institute for Human Cognitive and Brain Sciences ของ ของ Max Planck ในปี 2008 ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า มนุษย์เรานั้น จะใช้จิตใต้สำนึกในการตัดสินใจ ก่อนที่จะรู้ตัวว่าได้ตัดสินใจไปแล้วหลังจากนั้น 7 วินาที นั่นหมายถึง การตัดสินใจบางครั้ง เป็นเพียง อารมณ์ชั่ววูบ ซึ่งนั่นก็ขึ้นอยู่กับการนำเสนอ และ เทคนิคการขายที่สามารถทำให้ลูกค้าเห็นความคุ้มค่าที่เกินราคา ประทับใจ สนใจ และพร้อมตัดสินใจซื้อในทันที
17. เทคนิคเอาใจใส่คนพื้นที่เป็นสำคัญ
ในการขายที่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องทำเลที่ตั้ง คุณจำเป็นต้องโฟกัสคนที่เห็นหน้าคร่าตา และ ลูกค้าที่อยู่ระแวกใกล้ๆนั้น เพราะ คนกลุ่มนี้ คือ คนสำคัญที่จะต้องผ่านหน้าผ่านตาคุณตลอด ดังนั้น อย่าลืม หาโปรโมชั่นเอาใจคนในพื้นที่ให้มาอุดหนุนคุณด้วย
ที่สำคัญให้มั่นใจว่า ผลิตภัณฑ์หรือการบริการของคุณนั้นตอบโจทย์คนในพื้นที่จริงๆ เพราะอย่างที่เรารู้กันดี ว่า พฤติกรรมของคนนั้นมักจะมีการบอกต่อกันไปเรื่อยๆ หรือ แนะนำกันเอง ถ้าหากได้พบเจอ ได้ใช้ หรือ ได้รับบริการ ที่ดีจนน่าประทับใจ นั่นจะทำให้ทุกคนในพื่นที่นั้นๆรู้จักนักขายเก่งๆอย่างคุณได้ไม่ยาก
18. เทคนิคการขายบนโลกออนไลน์ ความเชื่อใจ สำคัญมาก
เมื่อมีการ สั่ง ก็ต้องมีการ ซื้อ เมื่อมีการ ซื้อ ก็ต้องมีการ ชำระเงิน ดังนั้น เรื่องของการชำระเงิน ต้องเน้นที่ระบบความปลอดภัยในข้อมูลของลูกค้า เพิ่มช่องทางที่ลูกค้าสามารถติดต่อเราได้ทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น ทางโทรศัพท์ การแชท อีเมล และอื่นๆเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกสบายใจเมื่อจ่ายเงินมาแล้ว
เพราะการสามารถติดต่อกับผู้ขายได้ตลอด ไม่หายเงียบไป จะทำให้ลูกค้ารู้สึกอุ่นใจ และ เพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้าได้ อีกอย่างคือ การมีการรับประกันสินค้า เช่น การให้วันในการรับประกันสินค้าเปลี่ยนคืน หากมีการชำรุดในจำนวนวันที่กำหนด จะทำให้เทคนิคการขายในข้อนี้มีประสิทธิภาพได้อย่างน่าอัศจรรย์
19. เทคนิคการขายด้วยการใช้รีวิวที่ตรงกลุ่มลูกค้า
ในเทคนิคการขายนี้ สามารถใช้ได้ทั้งการขายแบบออนไลน์ และ อ๊อฟไลน์ เพราะพฤติกรรมของลูกค้าปัจจุบันมักมีการสืบค้นหาข้อมูลและ รีวิว ก่อนตัดสินใจ คุณในฐานะนักขาย ต้องมีรูปรีวิว บทความรีวิว หรือ รายละเอียดใดๆก็ตามที่แสดงให้เห็นถึงความพึงพอใจของลูกค้าที่เคยซื้อหรือใช้บริการของคุณแล้ว
ส่งรีวิว เหล่านั้น ที่ใกล้เคียงลักษณะของลูกค้าที่กำลังสนใจจะซื้อ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ ภูมิลำเนา อาชีพ หรือ ไลฟ์สไตล์ คุณสามารถเลือกรีวิวสินค้าให้เหมาะสมกับลูกค้าได้ตามหมวดหมู่เหล่านี้ ซึ่งการที่ลูกค้าได้เห็นรีวิวที่ใกล้เคียงกับตัวเองก็จะช่วยให้การตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น ช่วยเพิ่มเปอร์เซ็นต์ความถูกใจของลูกค้าได้มากขึ้น
20. เทคนิคฮาร์ดเซลล์ได้ แต่ ต้องไม่ยัดเยียด
ในยุคดิจิทัลทุกคนเป็นเจ้าของสื่อ การทำตัวไม่ดีใน การขาย ไม่ว่าจะเป็นการขายของออนไลน์ หรือ การขายปกติ คุณสามารถเป็นที่รู้จักได้ในชั่วข้ามคืน (ในทางลบ) เพราะการรีวิว หรือการที่ลูกค้าก่นด่าคุณในโลกออนไลน์เมื่อมันถูกกระจายออกไป ยิ่งจะทำให้ชื่อเสียงของคุณติดลบไปด้วย ดังนั้น เทคนิคการขายในยุคนี้ ควร เป็น การส่งมอบคุณค่า การแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้จริงๆ ส่วน การยัดเยียด จ้องแต่จะขาย จะทำให้ลูกค้าหนีหายไปหมด
คนซื้อตัดสินใจจากข้อมูลดีๆ การนำเสนอ และ คอนเทนต์ (Contents) เหล่านี้จะสร้างความแตกต่างให้นักขายอย่างคุณได้ ไม่มุ่งเน้นแต่ยัดเยียด การขายแบบโบราณเหมือนสมัยก่อน จบลงไปแล้ว แต่ยังมีเซลล์อยู่มากมายที่คิดแต่จะขายท่าเดียว
21. เทคนิคยอดขายไม่เน่าต้องอย่าเอาแต่พูด
ในบางครั้งลูกค้าบางคนจะไม่ชอบเซลล์ที่พูด พูด พูด พูดมากเกินไป เพราะนั่นทำให้เขารู้สึกเหมือนกับถูกกดดัน เทคนิคการขายที่ดีจึงต้องให้ลูกค้ามีส่วนร่วมกับการสนทนานั้นไปด้วย
ให้เค้าได้พูดบ้าง ได้บอกเหตุผล ว่า กำลังมองหาอะไร เพราะอะไร ต้องการสินค้าแบบไหน หรือ ถ้าคุณมีการถามคำถาม คุณก็ต้องรอ “ฟัง” คำตอบอย่างตั้งใจด้วย เช่น เมื่อถามลูกค้าว่า รถที่ใช้อยู่มีปัญหาอย่างไร ก็ควรตั้งใจฟังคำตอบตั้งใจ ว่าเป็นรถรุ่นไหน ยี่ห้ออะไร ปัญหาที่เกิดขึ้นสินค้าที่คุณกำลังเสนอขายอยู่นั้น เหมาะกับความต้องการ และ แก้ปัญหาเดิมๆของลูกค้าได้หรือไม่ ด้วยเทคนิคการขายนี้จะทำให้ลูกค้าเห็นว่าคุณใส่ใจเค้าจริงๆ
22. เทคนิคการเรียนรู้สัญญาณการซื้อ
ในขณะที่กำลังขายคุณจำเป็นต้องรู้สัญญาณเหล่านี้ สัญญาณการซื้อ คือ การแสดงออกถึงการพูด พฤติกรรมท่าทางที่สนใจในสิ่งที่นำเสนอ เมื่อเห็นสัญญาณการชื้อเกิดขึ้น นักขายอย่างคุณก็สามารถทำการปิดการขายได้ ในจังหวะนั้น ซึ่งเป็นจังหวะที่ลูกค้ามีความพร้อมที่สุดในการตัดสินใจซื้อ
หากปล่อยเวลาให้ช้าไป ระดับความพร้อมในการซื้อก็อาจลดลงตามไปด้วยซ้ำ หากปิดการขายเร็วไป ก่อนเห็นสัญญาณซื้อ นั่นก็อาจทำให้น้ำหนักในการขายลดความเชื่อมั่นลดลงไปด้วย
สัญญาณการซื้อ ที่ว่านี้ มีตัวอย่างเช่น การยิ้มที่แสดงถึงการยอมรับ, การเอามือจับคาง พยักหน้าตอบรับ อยู่เป็นระยะ, แสดงอาการผ่อนคลาย, มีการเตรียมสิ่งบางสิ่งติดมาด้วยเหมือนพร้อมที่จะซื้อในคราวนี้ เช่น เงินสด เอกสารหลักฐานประกอบ บัตรเครดิต
23. เทคนิคการรับมือเมื่อลูกค้า “ต่อรอง”
การขาย กับ การต่อรอง อยู่คู่กันมา ดั่งพระอาทิตย์คู่พระจันทร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณผู้หญิงในเรื่องของการต่อรอง แล้วพวกเธอจะมีทักษะขั้นสูง หลายครั้งที่นักขายต้องปวดหัวกับการต่อรองที่ไม่ได้เกรงใจต้นทุนสินค้าเลย ดังนั้น หนึ่งในเทคนิคการขายที่ควรมีอีกข้อ คือ การรับมือ “การต่อรอง” ของลูกค้า
เมื่อลูกค้าเปิดคำถาม ว่า “ลดได้มั้ย” ถ้าลดได้จริงก็บอกส่วนลดได้เลย แต่ นักขายอย่างคุณต้องรู้ว่าการที่ลูกค้าต่อราคาอาจหมายความว่า คุณยังนำเสนอคุณค่าของสินค้าชิ้นนั้นน้อยไป จนเรื่องของราคาเกิดขึ้นมาเป็นเงื่อนไขในจลูกค้า ดังนั้นคุณควรจะชี้ให้ลูกค้าเห็นให้ได้ว่า เมื่อเขาซื้อไปแล้วมันคุ้มค่าเกินค่าราคาที่เค้าจ่ายไปยังไง และบางทีเทคนิคการยืนยันราคาเดิม บางทีอาจกระตุ้นให้ลูกค้าเสียดาย ใจอ่อนยอมซื้อเพราะเข้าใจว่าสินค้านั้นลดราคาลงอีกไม่ได้แล้วจริงๆ
24. เทคนิคการสร้างเงื่อนไขให้ต้องรีบซื้อ
ลูกค้าส่วนใหญ่ที่ถามเยอะๆ คุยนานๆ มักจะไม่ซื้อ (แต่ก็ขึ้นกับลักษณะของสินค้าด้วย) เพราะว่าเขาเป็นกลุ่มที่ลังเล ไม่ว่าจะด้วยเหตุผล เช่น ยังไม่อยากเสียเงินตอนนี้ หรือ ไม่แน่ใจว่าในตัวสินค้า
สิ่งที่คุณในฐานะนักขายที่ดี ต้องทำ คือ “สร้างความรู้สึกจำกัดเรื่องเวลาหรือปริมาณให้ต้องรีบซื้อ” เช่น อาจใช้วิธีบอกว่าสินค้าเหลือจำนวนไม่มากแล้ว บอกว่าจะไม่นำสินค้าชิ้นนี้มาขายอีกแล้ว หรือราคานี้จะปรับขึ้นอีกในวันพรุ่งนี้แล้ว เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่านี่คือโอกาสสุดท้ายที่จะซื้อสินค้าชิ้นนี้ และตัดสินใจซื้ออย่างรวดเร็วขึ้น แต่ควรให้อยู่ในขอบเขตของความเป็นจริงให้มากที่สุด เพราะการหลอกลวงไม่ยั่งยืนและส่งผลเสียแน่นอน
25. เทคนิคให้ข้อมูลต้องเคลียร์และเชียร์ในสิ่งที่ดีที่สุด
เทคนิคนี้คุณจำเป็นต้องรู้จักสินค้าของคุณเองเป็นอย่างดี รู้ให้ลึกและชัดเจนมากที่สุดก่อน พร้อมทั้งสามารถเปรียเทียบจุดเด่นจุดด้อยกับสินค้าคู่แข่งได้อย่างน่าสนใจ
หลายครั้งที่ลูกค้ามีความสนใจในสินค้า แต่ไม่มีความรู้ในเรื่องนั้น เกิดอยากสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าชนิดนั้น ส่วนใหญ่ เช่น รถรุ่นนี้ประหยัดน้ำมันได้ขนาดไหน,สามารถบรรทุกของหนักๆได้มากน้อยแค่ไหน เป็นต้น ลูกค้ากลุ่มนี้อาจเป็นลูกค้าที่กำลังจะมีการตัดซื้อสินค้าจริงๆ จึงเกิดมีคำถามลักษณะนี้ ดังนั้น เทคนิคการขายนี้ไม่ใช่เรื่องยาก แค่ทำหน้าที่นักขายที่ดี ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและตอบคำถามด้วยความเต็มใจ
26. เทคนิคการขายผลที่ลูกค้าได้รับ ไม่ใช่ เก่งแต่กับเรื่องคุณลักษณะของสินค้า
มีสิ่งหนึ่งที่นักขายหลายคนยังทำผิดพลาด ซึ่งข้อผิดพลาดนี้ อาจเป็นเหมือนเส้นผมบังภูเขา เป็นสิ่งเล็กๆที่อาจกำลังปิดกั้นความสำเร็จของคุณ ถ้าปลดล็อกตรงนี้ได้ ประสบความสำเร็จมหาศาลแน่นอน
ข้อผิดพลาดนี้ คือ การขายแต่ “สินค้า” โดยไม่ได้ขาย “ผลลัพธ์” เพื่อให้เห็นภาพชัดๆ ขอยกตัวอย่างคลาสสิค ที่หลายๆคนอาจเคยได้ยินมาแล้ว ถ้าคุณเป็น พนักงานขาย สว่าน สิ่งที่คุณต้องขาย คือ “รู” ไม่ใช่สว่าน ลูกค้าไม่ได้อยากรู้ว่าสว่านคุณมีลักษณะของสินค้าอย่างไร ใช้งานแบบไหน จริงๆเค้าอยากได้ “รู” ซึ่งคุณต้องทำให้เค้าเห็นภาพว่า เมื่อใช้สว่านของคุณในการเจาะ รูที่ได้จะออกมาเป็นอย่างไร ตรงกับสิ่งที่เค้าต้องการหรือไม่ นี่คือข้อสรุปของ การขายผลที่ลูกค้าได้รับ ไม่ได้ขายที่ตัวสินค้าหรือบริการ
27. เทคนิคการใช้ตัวเลขเป็นจุดขาย
เทคนิคการขายนี้ เป็น เทคนิคการนำเสนอด้วยตัวเลขเป็นจุดเด่นของสินค้า เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น ตัวอย่าง เช่น บอกลูกค้าว่า รถคันนี้ประหยัดน้ำมันกว่ารถที่คุณลูกค้าใช้อยู่ปกติตอนนี้ 4 เท่า ปกติลูกค้าเติมน้ำมันอาทิตย์ละครั้ง ถ้าเปลี่ยนใจซื้อรถใหม่คันนี้จะเติมน้ำมันแค่ 3-4อาทิตย์ต่อครั้ง สรุปแล้วประหยัดไปได้มากโข
วิธีการใช้ตัวเลขเป็นเทคนิคการขาย ยังมีอีกหลากหลายแบบ เช่น การใช้ตัวเลขเป็นจำหน่ายเงินต่อวัน การใช้ตัวเลขเปอร์เซ็นต์ และ อาจจะใช้ในแง่เวลา เช่น ค่าน้ำมันรถที่ประหยัดได้ต่อเดือนเทียบเท่ากับค่าผ่านรถใหม่ได้เลย เหมือนได้รถใหม่ฟรีๆ เทคนิคการนำเสนอเพื่อขายแบบนี้ น่าเชื่อถือเพราะมีเรื่องการคำนวณและตัวเลขให้จับต้องได้ เปรียบเทียบได้ง่าย และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเทคนิคการขายที่ดีมากๆ
28. เทคนิคการใช้เอกสารประกอบการขาย
ลูกค้าหลายคนอยากได้สินค้าและบริการของคุณ แต่อาจกำลังกลัวว่าเมื่อซื้อไปแล้ว จะไม่ได้ตามความคาดหวัง การทำเป็นเอกสาร (Document) เป็นอีกเทคนิคที่จะช่วยแก้ปัญหาลักษณะนี้ได้ เช่น
เอกสารนำเสนอ, ใบเสนอราคาพร้อมรายละเอียด, หนังสือแสดงรูปแบบบริการ, เอกสารสัญญา, ข้อสรุปทางอีเมล
รูปแบบเอกสารต่างๆนั้น มีความแตกต่างกัน แต่ อย่างน้อยที่สุด ลูกค้าจะมีความมั่นใจมากขึ้นว่า คุณไม่ได้นำเสนอขายปากเปล่า สร้างความน่าเชื่อถือได้มากกว่าเดิมแน่นอน และสามารถทำให้ลูกค้ามองว่าคุณมีความจริงใจ มีหลักฐาน หลักเกณฑ์ ซื่อสัตย์และเข้าถึงได้
29. เทคนิคการขายโดยให้ลูกตอบ “ใช่” ไปเรื่อยๆ
เทคนิคนี้เหมาะกับการนำเสนอละขายแบบตัวต่อตัว ที่อาจจะลองไปประยุกต์กับการแชทกับลูกค้าออนไลน์ก็มีโอกาสปิดการขายได้เหมือนกัน
คำว่า “ใช่” จะไปกระตุ้นเชิงจิตวิทยาตรงความอยากของลูกค้า ในกรณีที่ลูกค้ายังไม่แน่ใจ ไม่มั่นใจในตัวสินค้า กำลังกังวลว่าซื้อสินค้าไปแล้วจะไม่เป็นอย่างที่หวัง ไม่คุ้มค่า นักขายที่มีเทคนิค ต้องถามคำถาม สามารถทำให้ ลูกค้าตอบคำว่า “ใช่” ออกมา ได้อย่างต่อเนื่อง เช่น “ใช้รถกระบะขนของอยู่ใช่มั้ยครับ”
“บางครั้งก็เอากระบะขับพาครอบครัวไปเที่ยวใช่มั้ยครับ” ซึ่งคุณเองต้องมีพื้นฐานการช่างสังเกตในตัวลูกค้าและรู้ข้อมูลลูกค้ามาบางส่วน จะยิ่งสามารถสร้างคำถามให้ตอบ “ใช่” ได้มากขึ้นจนปิดการขายได้
30. เทคนิคการเลือกช่องทางขายให้ได้อย่างเหมาะสม
ช่องทางการขาย คือ ลู่ทางหรือหนทางที่คุณ นำสินค้าไปสู่ให้พบเจอกับลูกค้าได้ ดังนั้น ก่อนลงมือขายต้องถามตัวเองก่อนว่า ขายอะไร ลูกค้าเป็นใคร การเลือกช่องทางการขายที่ถูก จะช่วยให้คุณได้ลูกค้าตรงกลุ่ม
ตัวอย่างเช่น สินค้าที่มีราคาสูงและต้องการข้อมูลรายละเอียดมาก เช่น คอนโด หรือ รถยนต์ การปิดการขายหรือการซื้อของลูกค้าจะไม่ได้เกิดขึ้นในทันทีบนช่องทางออนไลน์ แต่ในทางกลับกัน สินค้าแฟชั่น สินค้าราคาไม่แพงมาก และ สินค้าที่เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปอยู่แล้ว โอกาสในการปิดการขายโอนเงินเกิดขึ้นได้ทันทีบนโลกออนไลน์ ดังนั้นการเป็นนักการที่ดีจำเป็นต้องรู้จักลูกค้า สินค้า และ ช่องทางการขายที่เหมาะสมด้วย
31. เทคนิคโฆษณาออนไลน์เพื่อสร้างการขายที่วัดผลได้
ปัจจุบันการทำโฆษณาออนไลน์ นักขายสามารถทำเองได้ผ่านทั้งช่องทางอย่าง facebook และ Google การโฆษณาออนไลน์เป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยเพิ่มฐานลูกค้า (Leads) ของคุณได้อย่างง่ายดาย เช่น การยิงโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมายที่คาดว่าจะเป็นลูกค้าของคุณ โดยเลือกอายุ เพศ อาชีพ ความสนใจ ของพวกเขาได้ และคุณยังสามารถกระตุ้นให้พวกเขากรอก ชื่อ อีเมล์ เพื่อรับข้อมูลบางอย่างได้
เช่น ในการโฆษณารถยนต์ออกใหม่ ด้วยวิดีโอที่น่าสนใจแล้วปิดท้ายด้วยการสามารถให้ผู้สนใจ กรอกชื่อ อีเมล์ เพื่อรับข้อเสนอพิเศษและเอกสาร e-Brochure ของรถรุ่นนี้ได้ฟรีๆ เฉพาะผู้ที่เห็นโฆษณานี้เท่านั้น คุณจะสามารถเก็บลูกค้า (Leads) และวางแผนในการปิดการขายต่อไปได้อย่างง่ายๆทันที
32. เทคนิคการขายด้วยการสาธิตแล้วปิดด้วยการให้สัมผัส
เทคนิคการขายนี้ เหมาะสำหรับการขายแบบออกบูธ หรือการขายที่หน้าร้าน เริ่มจากสร้างความน่าสนใจเรียกให้ลูกค้าเข้ามาดู จิตวิทยาของผู้ซื้อจะตัดสินใจซื้อง่ายกว่า เมื่อได้เห็นสินค้าของจริง มีการหยิบ จับ สัมผัส เพื่อให้ทราบว่าตรงกับสิ่งที่ตัวเองต้องการหรือไม่
ดังนั้น นักขายจ้าวเทคนิคอย่างคุณ ควรให้ลูกค้าที่สนใจได้ดูการสาธิตวิธีใช้ และปิดท้ายด้วยการที่ให้เขามีโอกาสได้ทดลองสินค้า ซึ่งในทางจิตวิทยา ดังที่ได้บอกไป คุณจะมีโอกาสปิดการขายสูงมากขึ้นอย่างน่าสนใจ
33. เทคนิคให้ความเห็นส่วนตัวต่อสินค้า
เทคนิคการขายนี้ ใช้จังหวะช่วงที่ลูกค้ากำลังเงียบเพื่อตัดสินใจ ให้ความเห็นส่วนตัวที่คุณมีต่อสินค้า อย่างจริงใจด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นน่าเชื่อถือ เพราะการที่คุณใช้คำว่าส่วนตัว นั่นจะแสดงให้ลูกค้ารู้สึกว่า ถ้าคุณไม่ได้เป็นคนขายอยู่ขณะนี้ คุณคิดว่าสินค้านี้เป็นอย่างไร
เช่น บอกว่า ส่วนตัวผมคิดว่ามันเป็นสินค้าคุ้มจริงๆ มันทำหลายอย่างได้ หรือ คุณจะหยิบยกเรื่องวัตถุดิบการผลิต ต้นทุนและเทคโนโลยีการผลิตแบบใหม่ มาประกอบเพื่อบอกว่าสินค้าชิ้นนี้ดียังไงด้วยยิ่งดี นอกจากนี้ นักขายที่ดีอาจจะหยิบยกสินค้าที่ใกล้เคียงกันจาก คู่แข่งอื่นมาเปรียบเทียบ เพื่อให้ลูกค้าเห็นความแตกต่างว่าสินค้าของคุณดีกว่ายังไง แถมยังสามารถกระตุ้นให้ลูกค้าอยากซื้อสินค้าจากคุณได้ดีอีกด้วย
34. เทคนิคให้ข้อเสนอเล็กแล้วขายข้อเสนอใหญ่
ไม่มีสิ่งใดจูงใจลูกค้าได้ดีไปกว่า การให้ลูกค้าทดลองใช้สินค้าและบริการด้วยตัวเอง เพราะประสบการณ์ตรงจะทำให้ลูกค้าเข้าใจเข้าถึงสินค้านั้นได้ดีมากกว่าการนำเสนอใดๆ จุดเด่นต่างๆ ที่คุณได้นำเสนอไว้ มันจะยิ่งชัดเจนในใจลูกค้ามากขึ้น
เทคนิค คือ คุณควรเสนอข้อเสนอเล็กๆก่อน เพื่อให้ลูกค้าได้ลองสินค้าและบริการ และ เมื่อลูกค้าได้ทดลอง จะเกิดลักษณะทางจิตวิทยาในการเป็นเจ้าของมากขึ้น ขณะเดียวกันก็รับรู้ถึงความมีน้ำใจของคุณไปด้วย พอถึงจุดนี้ ก็ถึงจังหวะที่คุณต้องปิดการขาย โดยการยื่นข้อเสนอใหญ่ที่คุณเตรียมไว้ทันที ลูกค้าจะปฏิเสธข้อเสนอของคุณได้ยาก เพราะ ในทางจิตวิทยาเขาจะไม่อยากสูญเสียความเป็นเจ้าของไป และเขาก็จะรู้สึกต้องตอบแทนคุณด้วยการแสดงน้ำใจซื้อสินค้าและบริการของคุณกลับ เทคนิคการขายนี้จะเป็นพลังเสริมให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้อย่างง่ายดาย
35. เทคนิคคนส่วนใหญ่ เขาก็ซื้อ เขาก็มี กันทั้งนั้น
Professor Solomon Asch จาก Swarthmore Collage ได้นำเสนองานวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่า มนุษย์นั้นจะหลงเชื่อชาวบ้านจนสามารถกลับผิดเป็นถูกได้เมื่อเห็นว่าคนอื่นๆก็ล้วนกลับผิดให้เป็นถูกเช่นกัน
เทคนิคการขายในหัวข้อนี้ จึงอ้างอิงจากงานวิจัยนี้มาเป็นเทคนิคในทางการขาย รูปแบบการเจรจา เช่น “คุณหมอส่วนใหญ่ใช้รถรุ่นนี้กันทั้งนั้นค่ะ อาทิตย์ก่อนผอ.โรงพยาบาลยังแนะนำให้หมอเวรมาออกไปอีกคัน คุณหมอสวยๆอย่างคุณพี่ห้ามพลาดเลยค่ะ” ในการนำเสนอลักษณะนี้นั้นจะสามารถช่วยลดความยุ่งยากของการตัดสินใจของลูกค้าได้อย่างชัดเจนเห็นผล “นักขายส่วนใหญ่เค้าอ่านบทความนี้กันจบหมดแล้ว”
36. เทคนิคคนคุมสถานการณ์ต้องเป็นคุณเท่านั้น
เทคนิคการขายนี้ หมายถึง นักขายที่ดีต้องไม่ไหลไปตามความรู้สึกลูกค้า แต่ต้องเป็นคนที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกตามสิ่งที่คุณต้องการให้ได้ ลูกค้าอาจจะเดินเข้ามาในร้านด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย เช่น เดินดูเล่นๆ มาเล็งไว้ก่อน หรือ มาเปรียบเทียบราคาเฉยๆ ถ้าคุณปล่อยให้ลูกค้าตัดสินใจเอง คุณก็จะขายได้เฉพาะคนตั้งใจมาซื้อ เท่านั้น
สุดยอดนักขาย ต้องเป็นคนควบคุมสถานการณ์ได้ เช่น พอลูกค้าแค่เข้ามาดูสินค้าใหม่ที่เปิดตัวอยู่ โดยที่ไม่คิดว่าจะมาซื้อแน่นอน หรือ ลูกค้าแค่มาเพื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง แต่ สุดยอดนักขายต้องสามารถนำเสนอจนลูกค้าเห็นว่าต้องซื้อไว้สักชิ้นแล้ว ของเค้าดีกว่าคู่แข่งจริงๆ เมื่อทำได้แบบนี้คุณก็สามารถปิดการขายได้ง่ายและเพิ่มลูกค้าขึ้นได้อีกมาก
37. เทคนิคการขายแบบออนไลน์ต้องหยุดลูกค้าให้ได้ใน 3 วิ
ในการขาย บนโลกออนไลน์ 3 วินาทีแรกต้องสะกดคนดูให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ คำบรรยาย แคปชั่น รูปภาพที่น่าสนใจ หรือ แม้กระทั่ง วิดีโอที่น่าติดตาม ในเวลา 0.25 วินาที ภาพต้องดึงดูดคนดูทันที
การพาดหัว หรือ แคปชั่น ก็มีส่วนสำคัญมากๆ แม้ว่าเนื้อหาของคุณจะดีแค่ไหน แต่หากพาดหัวไม่น่าสนใจ โอกาสที่คนจะคลิกอ่านก็มีน้อย
ส่วน การทำวิดีโอนั้น ควรปิดด้วย การขายสินค้าหรือบริการ ไม่ใช่แค่เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวเพียงอย่างเดียว แต่ควรนำเสนอสินค้าและบริการเพื่อให้ผู้ชมรู้สึกอยากซื้อสินค้าของคุณมากขึ้น การเล่าเรื่องผ่านวิดีโอนั้นก็ควรมีความสอดคล้องกับสินค้าหรือบริการของคุณ ซึ่งจะทำให้เทคนิคการขายนี้ประสบความสำเร็จได้
38. เทคนิคเสนอขายให้กระชับเวลาลูกค้านับเป็นทอง
ไม่ว่าจะเป็นการขายอะไรก็แล้วแต่ ไม่ควรเสียเวลากับลูกค้านานเกินไป(อันนี้แล้วแต่ลักษณะของสินค้าด้วย) เพราะในการเจรจานานๆ บางครั้งมันก็ไม่สามารถเกิดการขายได้ แถมยังทำให้เสียโอกาสดูแลลูกค้าคนอื่นๆไปอีก นักขายที่ดีต้องมีเทคนิคในการนำเสนอจูงใจ เช่น โปรโมชั่นดีๆ ส่วนลด ของแถม
พูดคุยให้ได้ราวกับว่าลูกค้าได้ตัดสินใจซื้อไปแล้ว เช่น การถามลูกค้าว่า ให้ส่งของไปที่ไหน, ให้ลูกค้าเลือกของแถมเลย, แจ้งวิธีการชำระเงิน ทั้งหมดนี้เป็นเทคนิคย่อยๆ ในความเป็นจริงแล้วถ้าคุณสามารถอ่านมาถึงตรงนี้ได้เทคนิคที่คุณอ่านผ่านมาทั้งหมดสามารถนำมาใช้ในข้อนี้ได้แทบทั้งสิ้น จงวางแผนการขายเตรียมนำเสนออย่างมีรูปแบบ เมื่อถึงเวลาขายจริงๆ คุณจะสามารถทำให้เวลามันกระชับขึ้นได้แน่นอน
39. เทคนิคการขายนั้นทั้งหมดก็เพื่อความสุขของอีกฝ่าย
เทคนิคนี้เป็นแนวคิด Mindset ของสุดยอดนักขายที่ได้กล่าวไว้ผ่านหนังสือที่นักขายที่ดีควรอ่าน “ขาย 100 คน ซื้อ 99 คน” ของ คุณตาวัย 73 ปี อะกิระ คะกะตะ ว่า “ผมขายให้เพราะคิดถึงลูกค้า ทำเพื่อลูกค้า”
ลองจินตนาการว่าในกระบวนการขายของทุกอย่างนั้น จะเกิดประโยชน์กับลูกค้าผู้ที่ซื้อไปเสมอ ผมขอเล่าเป็นนิทานทิ้งท้ายไว้เป็นข้อคิดแบบนี้ครับ
กาลครั้งหนึ่ง มีราชาผู้ยิ่งใหญ่ได้ครอบครองไม้วิเศษที่สามารถ เสกบันดาลให้คำสาปใดๆ ที่เกิดกับผู้ครอบครองไม้วิเศษนี้ให้มลายหายไปได้ทั้งสิ้น แต่ราชากลับเคราะห์ไม่ดี ป่วยเป็นโรคร้ายแรงอย่างที่ไม่มีใครรักษาให้หายได้ และ ในอีก 3 วันจะต้องตายจากโลกนี้ไป
คุณ ผู้ซึ่งเป็นตัวเอกในเรื่อง เกิดมาพร้อมคำสาปแม่มดให้ต้องสิ้นลมหายใจในวันที่กำหนดไว้ ซึ่งก็คือในอีก 3 วัน แต่คุณกลับได้ยาวิเศษจากแม่มด ยาที่สามารถรักษาอาการของราชาผู้ยิ่งใหญ่ได้
คุณต้องทำอย่างไรก็ได้เพื่อแลกเปลี่ยนยานี้ กับ ไม้วิเศษนั้น คุณใช้เวลา 3 วันที่เหลือในการเจรจา โน้มนาว จูงใจ เพื่อให้ราชาแลกเปลี่ยนยากับไม่วิเศษให้ได้
เรื่องราวจบลงที่ตรงนี้เพื่อให้คุณในฐานะนักขายได้ลองคิด จินตนาการต่อว่าหากมีการขายเกิดขึ้นด้วยแนวคิด Mindset ที่ตั้งใจให้ลูกค้าได้ประโยชน์ และผลพลอยได้คือคุณผู้เป็นผู้ขายก็ได้ประโยชน์ด้วย นิทาน เรื่องนี้คงจบลงแบบ แฮปปี้เอนดิ้ง แน่นอน ก่อนจะจบลงในข้อนี้ ผมขอแนะนำให้อ่านบทความ นักขายดิจิทัล ที่ปรึกษาการขาย ต่อเพราะมันอาจจะช่วยคุณได้ดีขึ้นถ้าต้องการเน้นการขายออนไลน์
สุดท้ายนี้ คนสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับหัวข้อ เทคนิคการขาย นี้ ด้วยการแสดงความคิดเห็นหรือคอมเม้นต์ไว้ใต้บทความ หรือ ไลน์มาพูดคุยกันได้ที่ ไลน์ไอดี : @brandingchamp <<คลิ๊กที่นี่ได้ตลอดเวลา
เนื้อหาดีครับ ขอเพิ่มอีก
ขอบคุณครับ