9 กลยุทธ์การตลาดอสังหา online marketing [อัพเดทล่าสุด]
9 กลยุทธ์การตลาดอสังหา online marketing [อัพเดทล่าสุด] เพื่อปิดการขายและเจาะกลุ่มเป้าหมายแม่นยำ
กลยุทธ์การตลาดอสังหา
กลยุทธ์การตลาดอสังหา ในบทความนี้ ทำขึ้นเพื่อชาวอสังหาฯทุกคน ถ้าคุณ เป็นนักอสังหาริมทรัพย์ หรือ เป็นนักลงทุน เจ้าของโครงการ รวมทั้ง เป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ คุณอาจจะมีประสบการณ์อย่างยาวนานในธุรกิจและอุตสาหกรรมนี้ แต่คุณก็คงสังเกตได้ ว่าจาก วิกฤตโควิด 19 ที่ผ่านมามีอะไรเกิดขึ้นและเปลี่ยนไปบ้าง กับ อุตสาหกรรม และ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ลูกค้าที่ต้องการจะซื้ออสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็น บ้าน หรือ คอนโด การเริ่มต้นของความต้องการซื้อนี้ เปลี่ยนไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง เพราะในยุคดิจิทัล ลูกค้าจะเริ่มต้นจากการค้นหาข้อมูลผ่านสื่อต่างๆในช่องทางออนไลน์ เพื่อให้เขาได้รับรู้ข้อมูลที่ถูกต้อง เห็นภาพชัดเจน เกี่ยวกับสินทรัพย์ที่เขาจะซื้อ รวมถึง เข้าใจในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังจะตัดสินใจลงทุนมากขึ้น หรือ ตัดสินใจใช้เป็นที่อยู่อาศัยสำหรับตัวเองและครอบครัวในอนาคต
จากพฤติกรรมที่เกิดขึ้นนี้ นักอสังหาริมทรัพย์อย่างคุณก็คงจะตระหนักดีอยู่แล้วว่า การตลาดออนไลน์ หรือ online marketing กลายเป็นหัวหอกสำคัญในการเข้าถึง กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ช่วยสร้างโอกาสการปิดการขายและทำการตลาดให้กับคุณ กลยุทธ์การตลาดด้วย Online Marketing สำหรับอสังหาริมทรัพย์ เริ่มต้นตั้งแต่ รู้จักลูกค้าในขณะที่เขากำลังมีความต้องการที่จะซื้อหรือลงทุนในสินทรัพย์ จนไปจบที่ตัดสินใจไปที่โครงการ หรือ ตัดสินใจจอง จนกระทั่ง สามารถปิดการขายและโอนได้ในที่สุด
ดังนั้นแล้ว อสังหาริมทรัพย์ ในยุคนี้ คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า มีความเกี่ยวข้องอย่างชัดเจนและเหนียวแน่นกับ Digital marketing หรือ การตลาดในช่องทางออนไลน์
ความสำคัญของการใช้การตลาดออนไลน์เป็นกลยุทธ์ในการเร่งยอดขายอสังหาริมทรัพย์
โดยทั่วๆไปแล้ว คนไทยมักจะให้ความสำคัญกับช่องทางออนไลน์มากขึ้น ตั้งแต่พบกับวิกฤตเศรษฐกิจและวิกฤตโรคระบาดอย่างโควิด 19 พฤติกรรมของคนไทยเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง โดยดูง่ายๆจากสื่ออย่าง social media ที่กลายมาเป็นสิ่งที่ลูกค้าหรือคนทั่วๆไปใช้เป็นช่องทางหลักในการรับรู้ข่าวสารต่างๆ ข้อมูล เป็นจุดต้นกำเนิดให้ตัดสินใจซื้อสินค้าบางอย่าง รวมถึง อสังหาริมทรัพย์ ด้วย
ในมุมของ Social media นั้น สำหรับ นักอสังหาริมทรัพย์แล้ว เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สามารถทำให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายรับรู้ รู้จัก และ จดจำได้ กับ สินทรัพย์หรือโครงการอสังหาฯของคุณ
และโดยทั่วไปแล้ว โซเชี่ยลมีเดียหลากหลายแพลตฟอร์มที่คนไทยใช้งานอยู่ ไม่ว่าจะเป็น LINE , facebook , instagram หรือ TikTok ก็เปิดโอกาสให้คุณสามารถทำโฆษณาเพื่อส่งเสริมการขายให้กับ โครงการอสังหาฯและสินทรัพย์ของคุณได้ รวมไปถึง สามารถสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก สร้างการจดจำ เพื่อความยั่งยืนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของคุณ
จากสถิติ พบว่า 84% ของ ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ ใช้สื่อสังคมออนไลน์ ดังนั้นสิ่งที่คุณควรทำตอนนี้ คือ ปรับตัวเองเข้าสู่ยุคดิจิทัล พร้อมเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ หรือ เจ้าของโครงการ นักอสังหาริมทรัพย์ตัวจริง ที่แตกต่างจากคนทั่วไปให้ได้ เพราะถ้าคุณอยู่ในตลาดที่มีผู้เชี่ยวชาญมากขนาดนี้ และ ตัวคุณเองไม่สามารถสร้างการเป็นที่รู้จักและจดจำให้กับโครงการอสังหาฯ หรือ สินทรัพย์ของคุณได้ ก็ยากนักที่จะปิดโครงการและขายให้หมดได้อย่างสบายใจ
ดังนั้น สิ่งที่คุณต้องเรียนรู้ คือ กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ แบบไหน ที่จะสามารถช่วยทำให้คุณเป็นแนวหน้า หัวขบวน หรือ ตัวท็อปในวงการ และ สร้างผลตอบรับที่ดีกว่ากลยุทธ์การตลาดแบบเดิมๆ
9 กลยุทธ์การตลาด ต่อไปนี้จะเป็นตัวจุดประกายให้คุณสามารถใช้ online marketing (การตลาดออนไลน์) ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
1. อย่าจ้าง agency บริษัท หรือ คนรับทำการตลาดออนไลน์ ถ้าคุณยังไม่เข้าใจว่าจะวัดผลมันได้ยังไง
กลยุทธ์ข้อแรกนี้ เป็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยเฉพาะสำหรับนักอสังหาริมทรัพย์ที่เติบโตมาในยุคของการตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคก่อนดิจิทัล จึงทำให้มีความเข้าใจว่า การตลาดออนไลน์ หรือ การทำการตลาดด้วยสื่อดิจิทัล และ โซเชียลมีเดีย สามารถที่จะฝากความหวังไว้กับ บริษัท เอเจนซี่ หรือ คนรับทำการตลาดออนไลน์
แต่สิ่งที่เกิดขึ้น “จริง” นั้น มักพบว่า 80 ถึง 90% ของโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ฝากความหวัง เอเจนซี่ หรือ บริษัทรับทำการตลาดออนไลน์ โดยที่เจ้าของโครงการหรือนักอสังหาริมทรัพย์ไม่มีความเข้าใจในวิธีการวัดผลของสื่อออนไลน์ต่างๆ ไม่ประสบความสำเร็จ
สิ่งที่เจ็บปวดไปกว่านั้น คือ เงินลงทุน (เพื่อคาดหวังยอดขายที่เกิดขึ้นกับโครงการอสังหาฯ) กลับกลายเป็น ยอดไลค์ ยอดแชร์ ซึ่งอยู่ในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เท่านั้นเอง แต่แล้ว นักอสังหาริมทรัพย์ หรือ เจ้าของโครงการ ก็มักจะทำเรื่องผิดพลาดเดิมๆซ้ำๆ นั่นคือ การเปลี่ยน บริษัท เปลี่ยนเอเจนซี่ หรือ จ้างคนทำการตลาดออนไลน์เจ้าอื่นๆต่อไป วนไปเรื่อยๆ เป็นวงจรที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง
ดังนั้น เพื่อบรรลุกลยุทธ์การตลาดข้อนี้ เจ้าของโครงการอสังหาฯ นักอสังหาริมทรัพย์หรือ คนที่เป็นเจ้าของทรัพย์สิน และ ต้องการขายในช่องทางออนไลน์ หรือ สื่อดิจิทัลต่างๆ คุณจำเป็นต้องรู้วิธีวัดผล วิธีตรวจสอบที่ลงลึกในรายละเอียด ที่มากกว่า ยอดไลค์ยอดแชร์ หรือ ยอดวิว แค่นั้น
2. อีเมล และ SMS ยังคงเป็นการตลาดที่ใช้ได้เพื่อดึงคนเข้ามาในช่องทางออนไลน์หรือไปปิดการขายที่หน้างาน
บางคนอาจจะคิดว่า สำหรับ อสังหาริมทรัพย์ แล้ว เรื่องของการส่งข้อความผ่าน SMS หรืออีเมล ไม่น่าจะมีอิทธิพลมากนัก ซึ่งนั่นเป็นความเข้าใจผิด เพราะการทำการตลาดในช่องทางที่สามารถเข้าถึงลูกค้าได้อย่างเฉพาะเจาะจง มีประสิทธิภาพสูงมากในการปิดการขาย และ ไม่ต้องพึ่งพาแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง โซเชี่ยลมีเดีย ใดๆเลย แต่ เครื่องมือเหล่านี้ จะมีคุณค่ามากขึ้น ก็ต่อเมื่อคุณสามารถเรียนรู้ได้ว่า จะมีวิธีเปลี่ยนจากคนที่ต้องการซื้อหรือลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ของคุณให้มาเป็นลูกค้าได้อย่างไร
โดยหลักการของการทำการตลาดด้วยกลยุทธ์นี้ คุณจำเป็นที่จะต้องมีข้อมูลของลูกค้าและ การยินยอม ยอมรับที่จะให้ธุรกิจของคุณสามารถติดต่อกับพวกเขาผ่านอีเมลหรือการส่ง SMS ได้ นั่นเป็น จุดแรก ที่คุณสามารถคัดกรองได้ว่าลูกค้าของคุณเป็นใคร มีพฤติกรรมแบบไหน รวมถึง มีกำลังซื้อเพียงพอกับโครงการอสังหาฯ หรือ ขนาดสินทรัพย์ของคุณได้ชัดเจนมากขึ้น
เปลี่ยนจากแค่คนรู้จัก คนสนใจ ให้เริ่มเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น จนท้ายที่สุดกลายมาเป็น ลูกค้าคนหนึ่งของธุรกิจของคุณได้ รวมถึงอาจจะสามารถต่อยอดให้ลูกค้าคนสำคัญคนนี้เป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียง เพื่อนำเสนอโครงการอสังหาหรือสินทรัพย์ต่างๆที่คุณมี ให้กับลูกค้าคนต่อๆไปได้อีกด้วย ดังนั้น คุณควรมีข้อมูลที่ชัดเจนของลูกค้าเจ้าของอีเมลและ SMS ที่คุณมี เพื่อให้การทำการตลาดด้วยกลยุทธ์นี้ มีประสิทธิภาพสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้
จากข้อมูลทางสถิติพบว่า มี อัตราการเปิดดูอีเมลในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์สูงถึง 27% นั่นหมายความว่า ในทุกๆ100 อีเมลที่คุณส่งถึงลูกค้า 100 คน จะมี 27 คนที่เปิดอ่านอย่างจริงจัง รวมถึงใน 27 คนนี้จะมี 3 คนที่กดลิงค์หรือกดปุ่มต่างๆที่คุณเขียนไว้ในอีเมล เพื่อทำบางอย่าง เช่น การลงทะเบียนเข้าร่วมงาน หรือ การลงชื่อเพื่อขอเข้าชมโครงการอสังหาของคุณ
ดังนั้น ถ้าคุณต้องการให้เปอร์เซ็นต์เป็นไปตามสถิติที่กล่าวมาข้างต้น เนื้อหา content ที่ถูกระบุลงไปใน อีเมล แต่ละฉบับ รวมถึง SMS จำเป็นจะต้องมีความเกี่ยวข้องและเหมาะสมเพียงพอที่จะกระตุ้นให้ผู้สนใจคนนั้น เปิดอ่าน รวมถึง กดลิงค์และมีส่วนร่วมกับ สินทรัพย์ หรือ โครงการอสังหาริมทรัพย์ ของคุณได้มากขึ้น
3. การมีเว็บไซต์ที่ใช้งานง่ายและให้ข้อมูลอย่างจริงใจและครบถ้วน
บ่อยครั้งที่ นักอสังหาริมทรัพย์ยุคใหม่ ให้ความสำคัญกับ สื่อสังคมออนไลน์อย่าง facebook instagram LINE twitter TikTok ในการเป็นช่องทางสำหรับสื่อสารสู่กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย แต่ก็มักหลงลืมไปว่า พฤติกรรมหลักๆที่ลูกค้าจะทำ เมื่อเริ่มมีความต้องการจะซื้อ หรือ ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ คือ การเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ของโครงการอสังหาฯนั่นเอง
โซเชี่ยลมีเดีย (social media) ดีสำหรับการเป็นหน้าด่าน สำหรับสร้างความรู้จักในครั้งแรกๆ แต่เมื่อลูกค้าต้องการข้อมูลเชิงลึกอย่างละเอียด และ เป็นลำดับขั้นตอน facebook instagram LINE Twitter หรือ tiktok ไม่ตอบโจทย์แบบนี้ ดังนั้น เว็บไซต์ของคุณจะต้องเข้ามาเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปนี้ให้ได้
บ่อยครั้งที่ลูกค้าเข้าชมเว็บไซต์ผ่านอุปกรณ์มือถือ แล้วปรากฏว่าไม่สามารถแสดงผลรูปภาพ หรือ รายละเอียดได้ดีเท่าที่ควร รวมทั้ง กว่าจะเข้าถึงหน้าเว็บไซต์ได้ มักใช้เวลาในการโหลดข้อมูลนานมาก แถมลิ้งค์ (links) บางอย่างในหน้าเว็บไซต์ไม่สามารถกดไปไหนได้เลย ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ จะกลายเป็นความหายนะให้กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของคุณอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ดี ในการพัฒนาเว็บไซต์ในยุคนี้ คุณมีตัวเลือกมากมายหลายรูปแบบ ทั้งการจ้างฟรีแลนซ์ จ้างบริษัทต่างๆ รวมถึง สร้างเว็บไซต์อย่างง่ายด้วยตัวคุณเอง แต่ท้ายที่สุดแล้วความสำคัญอยู่ที่ว่า เมื่อลูกค้าเข้ามาที่เว็บไซต์ของคุณ มันสามารถให้ข้อมูลหรือตอบโจทย์ โดนใจลูกค้าคนนั้นได้หรือไม่
การมีเว็บไซต์ที่ดี เปรียบเหมือนลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์ เช่นกัน เพราะในการใช้สื่อสังคมออนไลน์ แพลตฟอร์มต่างๆ คุณไม่สามารถที่จะรู้ได้เลยว่า เครื่องมือต่างๆเหล่านี้จะเปลี่ยนแปลงไปเมื่อไหร่ ตัวอย่าง เช่น การเปลี่ยนแปลง facebook algorithm ในการทำโฆษณา หรือ เงื่อนไขต่างๆของการทำวิดีโอคอนเทนต์ บน TikTok สิ่งเหล่านี้ มีความเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา แต่ในทางกลับกัน ถ้าหากเป็นเว็บไซต์ที่คุณบริหารจัดการด้วยตัวเองแล้วล่ะก็ คุณสามารถทำได้ตามที่ใจคุณต้องการ
ความสำคัญของการมีเว็บไซต์ เราสามารถเชื่อมโยงเว็บไซต์เพื่อให้ทำงานร่วมกับสื่อสังคมออนไลน์อื่นๆได้อย่างไร้รอยต่อ เช่น เมื่อลูกค้าเข้ามาในเว็บไซต์ แต่อยากจะคุยติดต่อสื่อสารผ่านการส่งข้อความทางไลน์ (LINE) ก็สามารถสร้างปุ่มกด เพื่อให้ลูกค้าเพิ่มเพื่อนและคุยทางไลน์ได้บนหน้าเว็บไซต์ทันที หรือ ถ้าลูกค้าอยากจะดูรีวิวโครงการอสังหาริมทรัพย์ของคุณ ดูภาพรวม และ บรรยากาศภายนอก ภายใน ของบ้านคุณสามารถนำคลิปวีดีโอจาก YouTube มาใส่ลงในเว็บไซต์ของคุณได้เลย
เว็บไซต์ เปรียบเสมือนเซลล์ 1 คน ที่จะทำงานให้คุณตลอดเวลา 24 ชั่วโมง 7 วัน โดยไม่ต้องมีการนัดหมายหรือมีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น ดังนั้น ถ้ายังไม่เห็นความสำคัญของการมีเว็บไซต์ คุณกำลังเสียโอกาสอย่างมากของการใช้กลยุทธ์การตลาดอสังหา แบบ Online marketing
4. ลงทุนซื้อโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ
ในปัจจุบันคนไทยเปิดรับสื่อสังคมออนไลน์หลากหลายแพลตฟอร์ม ตามช่วงวัยหรือพฤติกรรม กลุ่มสังคมที่คนเหล่านั้นมีความสัมพันธ์อยู่ ดังนั้น หากคุณศึกษามาอย่างดีแล้วว่า กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของคุณ มีการใช้สื่อสังคมออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มไหน การันตีได้ว่า แพลตฟอร์มนั้นเปิดโอกาสให้คุณสามารถซื้อโฆษณาออนไลน์ได้แน่นอน
ตัวอย่าง สื่อสังคมออนไลน์ที่คนไทยนิยมใช้ และ สามารถซื้อโฆษณาได้ด้วยตัวเอง เช่น facebook instagram twitter linkedin LINE YouTube TikTok และ รวมถึง google ด้วย
ที่ได้กล่าวมาทั้งหมดนี้ คุณสามารถซื้อโฆษณาด้วยตัวเอง หรือ แม้กระทั่งจ้างบริษัทต่างๆที่ รับยิงโฆษณา หรือ บริการซื้อโฆษณาผ่านช่องทางออนไลน์เหล่านี้ได้ทั้งสิ้น
สำหรับกลยุทธ์นี้ สิ่งที่นักอสังหาริมทรัพย์อย่างคุณควรให้สำคัญ คือ คุณจำเป็นจะต้องรู้ว่าในแต่ละแพลตฟอร์มการซื้อโฆษณา มีวิธีการวัดผลอย่างไรบ้าง เช่น
– CPC หรือ Cost Per Click ของโฆษณาใน Google ที่จะมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเมื่อมีคนคลิกเข้าชมโฆษณาเท่านั้น
– ยอดการมองเห็น impression หรือ ยอดการเข้าถึง reach ใน facebook
สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างเบื้องต้น ดังนั้น ความสำคัญและเป็นสิ่งที่จำเป็นจะต้องทำอย่างยิ่ง คือ ศึกษาและทำให้มั่นใจได้ว่า เมื่อคุณลงทุนทำโฆษณาในแพลตฟอร์มต่างๆคุณจะได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่ากับเงินลงทุนของคุณจริงๆ
5. สร้างบทความให้ความรู้หรือเนื้อหาที่เป็นประโยชน์กับผู้ซื้อหรือนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์
การมีเว็บไซต์ถือเป็นเรื่องดี คุณสามารถให้ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ โครงการบ้านหรือคอนโด ที่คุณกำลังขายอยู่ได้โดยละเอียด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภายใน ภายนอก รวมถึง รายละเอียดเอกสารการทำเรื่องกู้เงินกับธนาคาร ความน่าเชื่อถือของธุรกิจของคุณ แต่ สิ่งเหล่านี้อาจไม่ใช่ทั้งหมดที่ลูกค้าของคุณต้องการ
ข้อมูลความรู้ต่างๆ ที่สามารถช่วยให้ลูกค้าได้มีไอเดีย แนวความคิดใหม่ รวมทั้ง มีความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ก็สามารถสร้างและเปลี่ยนจากคนที่เพียงแค่ชื่นชอบและสนใจ ให้กลายมาเป็นลูกค้าได้ และ สิ่งเหล่านี้สามารถตอบโจทย์ได้จากการมี คอนเทนต์ เนื้อหา หรือ บทความดีๆ สำหรับลูกค้าเหล่านั้น
ตัวอย่าง เช่น วันนี้ลูกค้าอาจกำลังต้องการวิธีตรวจสอบก่อนการส่งมอบบ้านสักหลัง หรือ เอกสารทั้งหมดที่ต้องเตรียมก่อนการทำเรื่องกู้บ้านกับทางธนาคาร หรือ แม้กระทั่ง การตกแต่งบ้านชั้นเดียวให้ดูเหมือนสตูดิโอสำหรับ youtuber การมีบทความเหล่านี้ จะยิ่งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ ความน่าสนใจให้กับธุรกิจอสังหาของคุณ เพราะลูกค้าอาจจะกำลังมองหาคำแนะนำดีๆก่อนการตัดสินใจซื้อบ้านสักหลังหรือสินทรัพย์สักที่ และมันจะยิ่งทำให้คุณดูเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจและอุตสาหกรรมของคุณด้วย ถ้าเนื้อหาเหล่านี้มีคุณค่ามากเพียงพอที่จะช่วยเหลือกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของคุณ
ข้อแนะนำเพิ่มเติม คือ การทำบทความเนื้อหา หรือ การให้ความรู้ต่างๆที่เป็นประโยชน์อาจจะไม่จำเป็นต้องลงในเว็บไซต์ของคุณอย่างเดียว ในปัจจุบันมีเว็บไซต์มากมายที่เปิดให้คุณเขียนบทความลงเนื้อหาต่างๆ ที่เรียกว่า เว็บบล็อก หรือ บล็อก (Blog) คุณสามารถกระจายความรู้ เนื้อหา บทความต่างๆ แต่อย่าลืมที่จะนำพาลูกค้าที่ได้รับข้อมูลเหล่านั้นแล้ว กลับมายังเว็บไซต์ของคุณ หรือ ช่องทางเพื่อปิดการขายของคุณด้วย
6. ใช้เทคโนโลยีเสมือนช่วยในการสร้างความน่าสนใจให้กับอสังหาริมทรัพย์ของคุณ
ปัจจุบันเทคโนโลยีที่เรียกว่า Virtual Reality หรือ VR เป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว เพราะมีหลากหลายแพลตฟอร์มบนโลกออนไลน์ที่เปิดให้คุณสร้างสรรค์คอนเทนต์ (content) ที่เป็นเทคโนโลยีลักษณะนี้ได้ฟรีๆ ตัวอย่างเช่น ใน facebook คุณสามารถถ่ายรูปแบบ พาโนรามา แล้วโพสต์เพื่อสร้างคอนเทนต์ที่ทำให้ลูกค้าเห็นภาพแล้วเสมือนมาอยู่ที่หน้าโครงการ หรือ อยู่ในพื้นที่บ้านและคอนโดที่คุณขายอยู่ได้เลย
การใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ สามารถช่วยทำให้ลูกค้า เข้าถึง สนใจ รวมถึง เห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้น โดยที่ไม่ต้องจินตนาการ นี่เป็นอีกหนึ่ง กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ ที่นักอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก ดังนั้น นี่จึงเป็นโอกาสดีหากคุณอ่านมาถึงตรงจุดนี้แล้ว เพราะจากสถิติพบว่า เทคโนโลยีนี้สามารถสร้างยอดขายได้รวดเร็วกว่าคอนเทนต์อื่นๆ ถึง 49%
ในการตัดสินใจ ซื้อบ้าน ซื้อคอนโด หรือ ซื้อที่ดินสักผืน มีความยุ่งยากในการตัดสินใจของลูกค้าอยู่มากพอสมควร ในฐานะที่คุณเป็นนักอสังหาริมทรัพย์ ผู้เชี่ยวชาญอสังหาฯ หน้าที่ของคุณ คือ คุณต้องสามารถพาลูกค้าดำดิ่งเข้าสู่เส้นทางที่จะทำให้เขาตัดสินใจซื้อได้ง่ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ดังนั้น เรื่องราวของการนำเสนอ เนื้อหา และ คอนเทนต์ เป็นหนึ่งในสิ่งที่ปลดล็อคและโน้มน้าวใจของลูกค้าได้เป็นอย่างดี
หากคุณต้องการใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง หรือ Virtual Reality เหล่านี้ ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของคุณ คุณยังสามารถผลิตมันในรูปแบบวีดีโอได้อีกด้วย และ ปัจจุบันอุปกรณ์ที่ใช้ในการถ่ายวีดีโอแบบเสมือนจริง 360 องศา ไม่ได้มีราคาแพงเลย คุณสามารถหาซื้อและนำมันมาใช้กับอุปกรณ์มือถือของคุณได้ด้วย ที่สำคัญ facebook หรือ youtube ก็รองรับการอัพโหลดวิดีโอลักษณะนี้แล้วด้วย ดังนั้นถ้าคุณรู้เช่นนี้แล้ว ยังปฏิเสธในการใช้กลยุทธ์การตลาดอสังหา แบบ Online marketing ด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริงนี้ คุณกำลังเสียโอกาส
7. สร้างเครือข่ายพันธมิตรในสื่อสังคมออนไลน์อย่างมีกลยุทธ์
สื่อสังคมออนไลน์ หรือ โซเชี่ยลมีเดีย (social media) เป็นสิ่งแรกที่นักอสังหาริมทรัพย์ยุคใหม่ มักใช้เป็นช่องทางในการสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำคอนเทนต์ หรือ การทำโฆษณา แต่ที่มากไปกว่านั้น หากคุณกำลังพยายามสร้างเนื้อหา ปั้นคอนเทนต์เพื่อทำให้โอกาสปิดการขายอสังหาริมทรัพย์ของคุณมีสูงขึ้น ข้อสำคัญที่คนส่วนใหญ่มักลืมไป คือ คุณไม่จำเป็นต้องทำสิ่งนี้อย่างเดียวดาย
การผลิตคอนเทนต์ออกมาเรื่อยๆในสื่อสังคมออนไลน์ อาจจะมีบ้าง ที่ถูกบอกต่อและแชร์ไป แต่บางส่วนก็อาจจะเป็นเนื้อหาที่แทบไม่มีใครสนใจเลย ดังนั้นถ้าคุณทำสิ่งนี้อยู่คนเดียว อย่าลืมทดลอง กลยุทธ์การตลาดอสังหา Online marketing ด้วย วิธีหาพันธมิตร ไม่ว่าจะเป็น เน็ตไอดอล ยูทูปเบอร์ คนดังในโลกออนไลน์ ที่อาจจะเป็นกลุ่มคนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นักลงทุน หรือ อาจจะเป็นคนดังที่ทรงอิทธิพลในอุตสาหกรรมอื่นๆ ผู้คนเหล่านี้เป็นกระบอกเสียงและช่วยทำให้คุณเป็นที่รู้จักได้อย่างง่ายดาย
แต่ก็ยังมีพันธมิตรทางตรง ที่มักถูกหลงลืมเวลาจำเป็นจะต้องทำการตลาดอสังหาริมทรัพย์ นั่นก็คือ ทีมงาน เครือข่าย ไม่ว่าจะเป็น หุ้นส่วนของคุณ เพื่อนคนสนิท เจ้าหน้าที่ในสำนักงานของโครงการ เซลล์ ทีมมาร์เก็ตติ้ง และ ทุกๆคนที่อยู่รอบข้างของคุณ เพราะบุคคลเหล่านี้ (รวมถึงตัวคุณเองด้วย) เป็นเจ้าของสื่อในช่องทางออนไลน์ ไม่ช่องทางใดก็ช่องทางหนึ่ง
– เพื่อนของคุณอาจจะมีผู้ติดตามติด TikTok มากกว่า 10,000 คน
– เซลล์ที่ทำงานอยู่หน้าโครงการอาจจะเป็นเจ้าของ instagram ที่มียอด follow มากกว่า 200,000 คน
และ อื่นๆอีกมากมายที่ แม้ว่าเขาอาจจะไม่มีผู้ติดตามหรือฐานแฟนมากมายเท่าไหร่นัก แต่ก็ยังสามารถช่วยคุณกระจาย และ เป็นกระบอกเสียงให้กับอสังหาริมทรัพย์ของคุณในช่องทางโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กได้เช่นกัน
การทำการตลาดด้วยเทคนิคนี้ จำเป็นจะต้องมีการวางกลยุทธ์ให้ชัดเจนในการสื่อสาร รวมถึง ไม่ทิ้งตัวตนจริงๆของเจ้าของช่องทาง ซึ่งนั่นก็จะยิ่งทำให้ชื่อเสียงของแบรนด์อสังหาริมทรัพย์ของคุณ เป็นที่รู้จักได้ และ ทำให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายชื่นชมด้วย
8. จัดสัมมนาออนไลน์ หรือ อีเว้นท์ออนไลน์ เพื่อสร้างกระแสและกระตุ้นยอดขาย
ปัจจุบันเทคโนโลยีเปิดโอกาสให้คุณสามารถทำอะไรได้หลากหลายอย่าง แม้ว่าในภาวะวิกฤตต่างๆ น้ำท่วม หรือ มีโรคระบาด คุณก็ยังสามารถที่จะจัดกิจกรรมในรูปแบบออนไลน์ได้ ไม่ว่าจะเป็นการจัดสัมมนา การทำงานกิจกรรม event ต่างๆ งานแสดงอสังหาริมทรัพย์ของคุณ ทุกอย่างในปัจจุบันสามารถเกิดขึ้นได้ในโลกออนไลน์แบบไม่ยากเลย
การจัดสัมมนา หรือ งานกิจกรรม (Events) ต่างๆ ยังคงเป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมตั้งแต่ยุคก่อนมีอินเตอร์เน็ต จนถึงทุกวันนี้ และ ยอมรับในหมู่นักอสังหาริมทรัพย์โดยทั่วไปแล้วว่า สามารถที่จะสร้างและเปลี่ยนจากคนที่สนใจ ให้กลายเป็นลูกค้าได้เป็นอย่างดี (Coversions) สำหรับเรื่องราวของการจัดงานกิจกรรม event เพื่อสร้างยอดขายนั้น แนะนำให้เรียนรู้จากกลยุทธ์การตลาด จาก หนังสือ วิธีขายของ ราคา 40 ล้านเยน ด้วยแก้วกาแฟ ราคา 400 เยน (400円のマグカップで4000万円のモノを売る方法) ของคุณ ทาคาอิ โยโกะ , 高井洋子
แรงกระเพื่อม และ กระแสบอกต่อจากงานกิจกรรมหรือการจัดสัมมนาที่ทำออกมาได้ดี จะยิ่งช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของคุณมีความน่าเชื่อถือสูงขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ สามารถกระตุ้นการบอกต่อของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้เป็นอย่างดี และ ที่สำคัญคุณสามารถทดสอบมันด้วยการจัดงานเล็กๆแบบออนไลน์ผ่านเครื่องมือต่างๆในปัจจุบันที่อำนวยความสะดวกโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆด้วยซ้ำ ตัวอย่าง เช่น
– การใช้ไลฟ์สดหรือ facebook live
– การจัดสัมมนาผ่าน google meet หรือ microsoft team ที่สามารถเริ่มต้นได้ตัวคุณเองโดยไม่ต้องมีทีมงาน
การแชร์ประสบการณ์แลกเปลี่ยนไอเดีย รวมถึงนำเสนอองค์ความรู้ใหม่ๆเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์จะยิ่งทำให้คุณดูเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจนี้ นั่นจึงทำให้กลยุทธ์การตลาดอสังหาฯ ด้วย Online marketing ในรูปแบบนี้ ประสบผลสำเร็จได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่อย่างไรก็ดีคุณควรวางแผนมันอย่างจริงจัง
9. คุณต้องเข้าใจเรื่องของ SEO อย่างชัดเจนและให้ความสำคัญกับมันมากเป็นพิเศษ
สินทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็น บ้าน คอนโด หรือ ที่ดิน ไม่ใช่สินค้าที่มี ราคา 5 บาท หรือ 10 บาทที่จะให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อง่ายๆ ดังนั้น หากลูกค้าคนหนึ่งที่อาจจะเก็บเงินมาทั้งชีวิต เพื่อซื้อบ้านสักหลังไว้สร้างครอบครัวและอยู่อาศัยจนบั้นปลายชีวิตของเขา จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากกับใครคนหนึ่งหรือหลายๆคนก็อาจเป็นเช่นนั้น
หากคุณยังคิดว่า การนำเสนอเนื้อหาก็เพียงแค่ทำโฆษณาไปให้ถึงกลุ่มเป้าหมายนี้ คุณกำลังคิดผิดอยู่พอสมควร เพราะโฆษณาโดยมากทำได้แค่เพียงสร้างความน่าสนใจหรือกระตุ้นให้ตัดสินใจ แต่ในขณะเดียวกันลูกค้าผู้ซึ่งมีความต้องการอยู่แล้ว ไม่มีใครนั่งรอโฆษณาในยุคนี้ เพราะทุกคนสามารถค้นหาข้อมูลต่างๆรายละเอียดของโครงการอสังหาริมทรัพย์ ใกล้บ้าน วิธีการยื่นกู้ รวมถึง รายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับสินทรัพย์ที่เขาจะซื้อนี้ได้ด้วยตัวเอง
และช่องทางออนไลน์ที่สำคัญที่สุด ที่ให้ข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์สำหรับคนที่พร้อมจะซื้อหรือลงทุนและเป็นช่องทาง เป็นเครื่องมือที่นิยมที่สุดสำหรับคนไทย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นั่นก็ คือ Search Engine ที่ชื่อว่า Google นั่นเอง
นักอสังหาริมทรัพย์หลายคนเข้าใจว่า SEO หรือ Search Engine Optimization คืออะไรแต่เขากลับให้ความสำคัญกับมันน้อยมาก และ วนเวียนอยู่กับการทำโพสต์ใน facebook ทำคลิปในติ๊กต๊อก โดยลืมไปว่าพฤติกรรมของคนที่จะตัดสินใจซื้อหรือลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ไม่ใช่โฆษณาหรือคลิปสั้นๆ แต่ความจริง คือ เขาต้องการข้อมูลอย่างละเอียด และ ต้องเป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือ
ดังนั้น จากพฤติกรรมของผู้บริโภคในกลุ่มคนที่อยากซื้ออสังหาริมทรัพย์ บ้าน คอนโด ที่ดิน รวมถึง นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ จะตัดสินใจลงทุนหรือตัดสินใจซื้อ จากข้อมูลที่เขาได้รับ และ จุดเริ่มต้นของการได้มาซึ่งข้อมูลเหล่านี้ พวกเขาได้รับจาก Google นั่นเอง
SEO จึงมีความสำคัญอย่างมากในการเป็นกลยุทธ์การตลาดอสังหาริมทรัพย์ แบบ Online marketing หากคุณต้องการพิสูจน์ความจริงเรื่องนี้ คุณสามารถทำได้ด้วยการจินตนาการตัวเองเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย แล้วคิดว่า หากเป็นลูกค้าคนหนึ่งที่ต้องการลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์สักที่ หรือ ซื้อบ้านหรือคอนโดหรือที่ดินเพื่ออยู่อาศัย คุณจะค้นหาด้วยคำว่าอะไร ตัวอย่าง เช่น “บ้าน 2 นอน 1 น้ำ บางนา” หรือ “บ้านชั้นเดียวราคาไม่เกิน 1,500,000 บาท” ลองค้นหาด้วยคำต่างๆเหล่านี้ แล้วพิสูจน์ด้วยตัวเองว่า Google นำเสนอโครงการอสังหาริมทรัพย์ของคุณในหน้าแรกหรือไม่ นี่จะเป็นข้อพิสูจน์ได้ว่าคุณให้ความสำคัญกับ SEO มากน้อยแค่ไหน
มากไปกว่านั้น หลายคนยังเข้าใจผิดว่า ลูกค้ารู้จักชื่อโครงการของคุณแล้ว ลูกค้าส่วนใหญ่จดจำ และ ค้นหาโครงการของคุณด้วย ชื่อโครงการใน Google ซึ่งนั่นอาจจะเป็นความคิดที่ผิด เพราะ
คนในปัจจุบันไม่มีความภักดีต่อแบรนด์ใดๆทั้งสิ้น สิ่งที่พิสูจน์ได้ชัดเจน คือ บทความที่คุณกำลังอ่านอยู่ตอนนี้ คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์ชื่ออะไร
แล้วคุณจะคาดหวังให้ลูกค้าจดจำชื่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หรือ โครงการอสังหาของคุณได้ในพริบตาอย่างนั้นหรือ ?
อธิบายหลักการของ SEO ง่ายๆเพื่อให้ชาวอสังหาฯเข้าใจ สามารถสรุปได้ 2 ข้อ คือ
- คุณจำเป็นจะต้องรู้ว่า ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายหลักของคุณ ค้นหาใน Google ด้วย คำค้น (keywords) อะไรบ้าง
- ทุกคำค้นหรือคีย์เวิร์ดในข้อ 1. เมื่อลูกค้าค้นหาใน Google แล้วจะต้องพบเจอคุณในหน้า Google อันดับ 1, 2 หรือ 3 เสมอ (ถ้าเกินจากนี้ถือว่าแทบจะไม่มีประโยชน์)
นักอสังหาริมทรัพย์หลายคน ที่เคยทำการตลาดผ่าน Google อาจจะกำลังบอกว่า ความจริงแล้ว SEO อาจจะไม่สำคัญ ถ้าคุณสามารถซื้อโฆษณา Google Ads ได้ แต่นั่นจะกลายเป็นความเสี่ยงที่เกิดขึ้น เพราะการทำโฆษณากับ Google มีค่าใช้จ่ายต่อเนื่องตลอดเวลา แต่ SEO จะช่วยคุณประหยัดได้ในระยะยาว แม้ว่าอาจจะจำเป็นต้องลงทุนลงแรงในระยะแรกๆ อีกอย่าง คือ คุณแน่ใจแล้วหรือว่า จะลงทุนซื้อโฆษณา Google ads แข่งกับแบรนด์อสังหาริมทรัพย์เจ้าใหญ่
ภาพบรรยากาศส่วนหนึ่ง จากงานสัมมนา สำหรับ นักอสังหาริมทรัพย์ เจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์หัวก้าวหน้า นายหน้าอสังหา แนะ นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์
คุณสามารถร่วมแสดงความคิดเห็นกับบทความ “9 กลยุทธ์การตลาดอสังหา online marketing เพื่อปิดการขายและเจาะกลุ่มเป้าหมายแม่นยำ” นี้ โดยคอมเม้นต์ไว้ใต้บทความนี้ หรือ สามารถติดต่อพูดคุยกับ อาจารย์แชมป์ ธิติพล เทียมจันทร์ เจ้าของบทความได้โดยตรงเพียง ทักมาที่ไลน์ไอดี @brandingchamp หรือ คลิ๊ก ที่นี่ เพื่อเพิ่มเพื่อนได้ทันที
ติดตามอยู่นะครับ อ.แชมป์
ขอบคุณมากๆเลยครับ
Gooooooooooood
Thank you
เห็นด้วยตั้งแต่ข้อแรกเลยค่ะ
ยินดีที่บทความเป็นประโยชน์ครับ
โดนใจ
ยินดีที่บทความถูกใจครับผม ขอบคุณมากครับ
ทีม ที่ปรึกษาการขาย ต้องขอบพระคุณท่านอาจารย์แชมป์ ที่ได้มาให้ความรู้ที่นำไปใช้ได้ทันที เป้า 95 ล้าน ไม่ยากเลยครับ
ขอบคุณมากๆเลยครับผม